แฉ!! ครูจอมทรัพย์ต้นคิดติดคุกแทน วางแผนตั้งแต่อยู่เรือนจำ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) เมื่อวันที่27 พฤศจิกายน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รรท.รองผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก ตร. กล่าวถึงการสอบปากคำขบวนการรับจ้างติดคุกคดีครูจอมทรัพย์ หรือ นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีขับรถชนคนตาย ซึ่งศาลฎีกายกคำร้อง เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา ว่า สำหรับคดีนี้ตนเดินทางไปสอบปากคำผู้ต้องหาและพยานแวดล้อมด้วยตนเอง เบื้องต้นมีการสอบปากคำไปแล้วกว่า 34 ปาก เมื่อวานสอบปากคำไป 20 ปากวันนี้ได้สอบเพิ่มเติมอีก 14 ปาก ต้องมีการเรียกทุกคนที่เกี่ยวข้องมาสอบเพิ่มเติมอีก รวมทั้งเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะเรียกมาวันไหน ขอประชุมกับทีมสืบสวนเสียก่อน หากพบว่าใครเกี่ยวข้องก็จะต้อง ดำเนินคดีไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ก็ตาม

โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า เหตุผลที่นางจอมทรัพย์ ขอรื้อฟื้นคดีทั้ง ๆ ที่ได้ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาแล้วนั้น เนื่องจากหากการขอรื้อฟื้นคดีสำเร็จ และมีผู้รับโทษแทน นางจอมทรัพย์ จะได้กลับเข้ามารับราชการ ซึ่งเหลืออายุราชการอีก 5 ปี และหากเกษียณอายุราชการก็จะได้รับเงินบำนาญตลอดชีวิต ได้รับเงินเยียวยาย้อนหลังระหว่างที่อยู่ในคุก อีกทั้งยังจะได้รับเงินเยียวยาผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าทดแทน และ ค่าใช้จ่ายในคดีอาญา จากกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพกระทรวงยุติธรรม ซึ่งมียอดเงินชดเชยรวมแล้วกว่าล้านบาท"

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ขบวนการรับจ้างติดคุกมีต้นคิดมาจาก นางจอมทรัพย์ โดยมีการวางแผนเซ็นมอบอำนาจตั้งแต่อยู่ในเรือนจำ มีการเซ็นเอกสารมอบอำนาจให้ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง รวมถึงคนอื่นๆที่ใกล้ชิด ให้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งการร้องเรียนกับหน่วยงานภาครัฐ การหรือฟื้นคดี มีรูปแบบการทำลักษณะคณะกรรมการชัดเจน

นอกจากนี้ มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกนายณัชพล สุพัฒนะ หรือ มาร์ค พิทบลู ประธานชมรมมิตรภาพพิทบลู ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เนื่องจากเข้าไปเกี่ยวข้องในการระดมเงินบริจาคทางโซเชียลมีเดีย ช่วยเหลือนางจอมทรัพย์ ในการต่อสู้คดี ว่ามีส่วนได้ประโยชน์จากเงินบริจาคตรงนี้ด้วยหรือไม่ หรือมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการนี้อย่างไร