สั่งปิดน้ำตกปาโจ จ.นราธิวาส หลังน้ำป่าทะลัก

สั่งปิดน้ำตกปาโจ จ.นราธิวาส หลังน้ำป่าทะลัก

อุทยานแห่งชาติบูโดสุไหงปาดี สั่งปิดน้ำตกปาโจ จ.นราธิวาส หลังเกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรง น้ำป่าเทือกเขาบูโทะลัก

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.60 รายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุดบรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้ายังคงมีเมฆฝนมืดครึ้มแพร่กระจายปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ ส่งผลทำให้น้ำป่าบนเทือกเขาบูโดสุไหงปาดี ในพื้นที่ อ.บาเจาะ ที่มีความอิ่มตัวและได้สะสมกันเป็นเวลานาน 4 วัน ได้ไหลทะลักลงมาจากเทือกเขาผ่านโขดหินหน้าผาชั้นที่ 4 ของน้ำตกปาโจ ซึ่งมีความสูง 60 เมตร แถมกระแสน้ำมีความรุนแรงจนน่ากลัว และเป็นอันตรายต่อชีวิตของนักท่องเที่ยวได้

นายสิทธิชัย หมัดสี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติบูโดสุไหงปาดี จึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเฝ้าระวัง และคอยสังเกตการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวให้งดการเดินทางมาท่องเที่ยวในระยะนี้ จนกว่าสภาพโดยทั่วไปจะคืนกลับสู่สภาวะปกติ เนื่องจากในทุกๆ ปีของฤดูน้ำหลากน้ำป่าจากเทือกเขาบูโดสุไหงปาดี จะไหลทะลักลงสู่น้ำตกปาโจอย่างรุนแรง และจะกลับคืนสู่สภาพอย่างรวดเร็วไม่เกิน 1 ถึง 2 วัน

นอกจากนี้แล้วจากการตระเวนตรวจสอบสภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ อ.ระแงะ พบว่า มีปริมาณน้ำท่วมขังในพื้นที่ราบลุ่มที่รอระบายลงสู่คลองตันหยงมัส ทำให้ถนนหนทางภายในหมู่บ้าน บ้านเรือนของประชาชนและมัสยิด มีน้ำท่วมขังสูงกว่าในช่วงเช้าประมาณ 10 ถึง 20 ซ.ม. แถมโรงเรียนในพื้นที่ยังถูกน้ำท่วมขังหลายโรง อาทิ โรงเรียนบ้านสาเมาะ ม.1ต.บองอ โรงเรียนบ้านบ่อทอง ม.13 ต.ตันหยงมัส เป็นต้น จนทางผู้อำนวยการโรงเรียนของแต่ละโรง ต้องประกาศหยุดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวในขณะนี้