อิหร่าน-ซาอุฯวิวาทะเผ็ดร้อน

อิหร่าน-ซาอุฯวิวาทะเผ็ดร้อน

อิหร่าน-ซาอุดีอาระเบีย เปิดศึกวิวาทะข้ามประเทศอย่างเผ็ดร้อน ล่าสุด อิหร่าน เรียกเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานว่าเผด็จการ หลังจากมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียเรียกอยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านว่า ฮิตเลอร์แห่งตะวันออกกลาง

นายบาห์รัม กาเซมี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน กล่าวเมื่อวันศุกร์(24พ.ย.) ว่า พระราชดำรัสล่าสุดของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย สะท้อนพระราชจริยวัตรที่อ่อนหัด โง่เขลา และไร้ค่า เกินกว่าที่ใครจะให้ความสำคัญ 

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเตหะราน เรียกร้องให้พระองค์ทรงศึกษาชะตากรรมทางการเมืองของผู้นำประเทศหลายๆคนในตะวันออกกลางที่เป็นเผด็จการไว้เป็นกรณีศึกษา และการแทรกแซงกิจการภายในของเลบานอนจะสร้างปัญหาให้แก่ทั้งรัฐบาลริยาดและพันธมิตร

ถ้อยแถลงของโฆษกกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน มีขึ้นหลังจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐ ฉบับวันพฤหัสบดี ลงบทสัมภาษณ์เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ซึ่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมว่า จำเป็นต้องเผชิญหน้ากับอิหร่านที่กำลังขยายอิทธิพลในภูมิภาค เพราะบทเรียนที่เกิดขึ้นในยุโรปสอนให้รู้ว่าการจำยอมไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ซาอุดีอาระเบียไม่ต้องการให้ฮิตเลอร์ในอิหร่านทำกับตะวันออกกลางเหมือนที่ฮิตเลอร์ทำกับยุโรปมาก่อน

ส่วนเรื่องการสู้รบในเยเมน ที่ซาอุดีอาระเบียเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศหลายพันครั้งตลอด 2 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา เพื่อปราบปรามกลุ่มฮูธีที่ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของเยเมนและได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านนั้น  มกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบียตรัสว่า กำลังเป็นฝ่ายได้เปรียบ เพราะซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรควบคุมพื้นที่เยเมนได้แล้ว 85% ง

ทั้งนี้  สงครามในเยเมนมีผู้คนล้มตายแล้วร่วมหมื่นคน โดยกลุ่มฮูธี ซึ่งยังคงยึดเมืองใหญ่ ๆ ได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีมุ่งมายังท่าอากาศยานหลักในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 4 พ.ย. ซึ่งซาอุดีอาระเบียประณามว่าเป็นการกระทำของอิหร่าน