รวบ 2 สาวไทย ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

รวบ 2 สาวไทย ร่วมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ

รวบ 2 สาวไทย ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แดนมังกร อ้างดีเอสไอหลอกตุ๋นเงินเหยื่อ ได้ค่าคอมฯร้อยละ 3-5


เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. ทำการจับกุมตัว น.ส.ธัญญาลักษณ์ หรืออุ๋ย นิ่มทอง อายุ 34 ปี และนางกัญญาณัฐ แถวโชติ ตามหมายจับของศาลอาญา ที่ 2007 /2559 และ ที่ 2009/2559 ตามลำดับ ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2559 ในข้อหา“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,อั้งยี่ และซ่องโจร” โดยสามารถจับกุม น.ส.ธัญญาลักษณ์ ได้ที่บริเวณหน้าบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.13 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.สุโขทัย และสามารถจับกุมตัว นางกัญญาณัฐ ได้ที่บ้านพักภายในพื้นที่ ม.5 ต.พลา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ พร้อมพวกอีก 26 คน ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ทำงานเป็นสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้กับ นายฉิงเกอ นายทุนชาวจีน-ไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้กับผู้ต้องหาทั้งหมดในการเดินทางไปประเทศจีนในรูปแบบของวีซ่านักท่องเที่ยว 3 เดือน เพื่อไปทำหน้าที่เป็นผู้คอยโทรศัพท์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์กลับมาหลอกลวงผู้เสียหายในประเทศไทย โดยการอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร หรือ เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI จากนั้นก็จะทำการเจรจาหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายติดปัญหาเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือ เข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีร้ายแรง จำเป็นต้องทำการตรวจสอบ ก่อนจะหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามายังบัญชีที่ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้จัดเตรียมไว้ กว่าที่ผู้เสียหายจะรู้ตัวว่าถูกหลอกก็สูญเงินในบัญชีจนเกือบหมดแล้ว

อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ร่วมขบวนการเหล่านี้จะได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน ในอัตราเดือนละประมาณ 10,000 - 15,000 บาท พร้อมกับค่าคอมมิชชั่นร้อยละ 3-5 จากจำนวนเงินที่หลอกลวงมาในแต่ละวัน กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยและกบดานซ่อนตัวอยู่ตามภูมิลำเนาของตนเอง จึงได้นำกำลังไปติดตามจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้เบื้องต้นให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน กก. 2 บก.ป. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป