ส่งศพ13ต่างด้าว และโชเฟอร์รถตู้ พิสูจน์เอกลักษณ์ นิติเวชตร. เผยยังไม่มีญาติผู้เสียชีวิตมาติดต่อรับศพ
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร.เปิดเผยถึงกรณีข่าวรถตู้ขนส่งแรงงานต่างด้าวชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตรวม 14 คน ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี ว่า ได้รับรายงานเหตุดังกล่าวทราบว่าเมื่อ 24 พ.ย.60 เวลา 02.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง เฉี่ยวชนรถยนต์บรรทุกสิบล้อ แล้วรถยนต์ตู้เกิดไฟลุกไหม้คลอกผู้โดยสารและคนขับเสียชีวิต เหตุเกิดถนนสายเอเชียขาล่อง กม.ที่ 90+600 ม.3 ต.บางมัญ อ.เมือง จว.สิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อมิตซูมิตชิ ทะเบียน 81-7407 นครสวรรค์ จอดอยู่ในที่เกิดเหตุสภาพด้านท้ายได้รับความเสียหาย มีนายสุนทร ฟักทอง อายุ 56 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และรถยนต์ตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 33-3241 กทม.อยู่ในที่เกิดเหตุสภาพถูกไฟไหม้ทั้งคัน มีผู้เสียชีวิต 14 คน คนขับเป็นชาวไทย 1 คน และมีผู้โดยสารเป็นชาวพม่า 13 คน สภาพศพถูกไฟเผาไหม้ดำยังไม่สามารถพิสูจน์บุคคลได้ จากการสอบสวนทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นของ หจก.บุญเรือน ทัวร์ รับแรงงานต่างด้าวพม่าทั้งหมด จาก อ.แม่สอด จว.ตาก ไปส่งให้นายจ้าง จว.สมุทรปราการ แต่ประสบเหตุชนท้ายรถบรรทุกเสียก่อนจนเกิดเพลิงไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงร่วมกับแพทย์ร่วมตรวจสถานที่เกิดเหตุและได้ส่งศพผู้ตายทั้งหมดมายังนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและหาสาเหตุการตายต่อไป
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่าเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบเอกสารของรถตู้ถูกต้องและเอกสารของแรงงานต่างด้าวพม่าการเข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องและได้แจ้งให้สถานฑูตพม่าประจำประเทศไทยทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่วนทางคดีอยู่ระหว่างสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ รอผลตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชน และรอผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตาย ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างเข็มงวด ต่อเนื่องและเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นที่แรงงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลา 13:05 น.วันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ เจ้าหน้าที่มูนิธิร่วมกตัญญู จากจังหวัดสิงห์บุรีได้ นำร่างผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ทั้ง 14 ส่งสถาบันนิติเวชวิทยาฯชันสูตรพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 14 รายห่อด้วยผ้าขาวมีการเขียนหมายเลขกำกับไว้ โดยสภาพศพไหม้เกรียมบางรายมีขนาดลำตัวเล็กคล้ายร่างเด็ก โดยเจ้าหน้าที่ทราบชื่อเพียงรายที่4 หรือหมายเลขที่4 นายปฐมพัฒน์ พันธ์ผล คนขับรถตู้ โดยเจ้าหน้าที่รับศพไว้เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป ทั้งนี้ไม่มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาด้วยแต่อย่างใด