MORNING CALL ACTION NOTES (23 พ.ย.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (23 พ.ย.60)

เก็งกำไรรายตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อน ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อนหน้าโดยมีแรงหนุนหลักจากกลุ่ม BANK หลังมีการรายงานย่อแสดงตัวเลขสินเชื่อเติบโต MoM / ENERG ตามราคาน้ำมันฟื้นตัวก่อนประชุม OPEC โดยรวม SET Index ปิดที่ 1713.13 จุด (2.65 จุด) Volume 5.76 หมื่นลบ. โดย Foreign Net 917.54 ลบ.  TFEX Net -4,301 สัญญา ตราสารหนี้ +8,384 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+น้ำมันดิบปิดพุ่งหลังสต็อกน้ำมันสหรัฐลดลงมากกว่าการคาด นอกจากนี้ การอุปทานน้ำมันลดลงจากการปิดท่อส่งน้ำมันจากแคนาดามายังสหรัฐ

+ ส่งออก ต.ค.60 +13.1% สูงสุดในรอบ 6 ปี 10M60 ส่งออก +9.7%

-ดาวโจนส์ปรับตัวลง หลังจากรายงานการประชุมเฟดระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

-ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ต.ค.อยู่ที่ 85.9 จาก 86.7 ในก.ย.

+/- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐ ลดลง 1.2% ในเดือนต.ค. แต่ยอดผู้ขอรับสวัสดิการลดลง 13,000 รายสู่ระดับ 239,000 ราย หลังจากเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อ 917 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่า 32.70 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.14 แสนสัญญา)

**ตลาดหุ้นญี่ปุ่นและสหรัฐหยุดทำการเนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า**

**จับตาวุฒิสภาสหรัฐพิจารณาร่างกม.ปฏิรูปภาษี

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ และตัวเลขส่งออกเดือนต.ค.โดยมีปัจจัยลบจากเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า และ fund flow ต่างชาติที่ยังผันผวน  คาดวันนี้ SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,707-1,722 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- ERW ปลัดท่องเที่ยว หนุนใช้มาตรการภาษีกระตุ้นเที่ยวไทยเที่ยวไทย

- หุ้นที่ MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนัก IVL TOP SCB PTTGC KBANK และใน MSCI Small Cap เพิ่ม BEC GGC ORI VNT WHAUP  มีผล 30 พ.ย.

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC JUBILE AMA

- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดต้องไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ โครงการ PPP และรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2

- ประเด็นบวกกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม บอร์ด EEC ให้ตั้งเขตส่งเสริมอุตฯ-นวัตกรรมดิจิตอลในศรีราชา

หุ้นแนะนำพิเศษ

DTAC (ราคาปัจจุบัน 43.50 บาท Bloomberg Consensus 53.16 บาท)

  • คณะอนุฯกลั่นกรองกสทช.กังขาหลายเรื่อง เรียก TOT ชี้แจงร่างสัญญาคู่ค้ากับ DTAC ให้บริการ 4G LTE-TDD บนคลื่น 2300 MHz วันที่ 27 พ.ย.นี้ ก่อนชงเข้าบอร์ดกสทช.พิจารณาวันที่ 6 ธ.ค. 60 พร้อมสั่ง DTAC ปรับปรุงบริการไลน์โมบาย (ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวหุ้น)
  • กรณีสัญญาคู่ค้าระหว่าง TOT กับ DTAC หากภายหลังการชี้แจงและรองรับจาก กสทช.จะเป็นไปได้ 2 กรณี คือ 1) สัญญาดังกล่าวถูกต้องตามมติที่ประชุม กทค.และไม่ขัดแย้งกับกฏหมาย (มาตรา 46) โดยจะส่งผลให้ DTAC คลายความกังวลจากการหมดสัญญาสัมปทานกับ CAT ในคลื่นความถี่ 850 MHz (ปรับปรุงเป็น 900 MHz) และ 1800 MHz ในวันที่ 15 ก.ย. 61 ขณะที่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าสัญญาหับ TOT ราวปีละ 5 พันล้านบาท มากดดันผลประกอบการตั้งแต่ช่วง 1Q60 และ 2) สัญญาไม่ได้รับการรับรอง จากที่ประชุม กสทช.จะส่งผลให้ DTAC แรงกดดันที่จะต้องหาคลื่นมาให้บริการทดแทน โดยต้องติดตามการประมูลคลื่น 900 MHz และ 1800 MHz ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ค. 61 (ภายหลังมีการสรรหาคณะกรรมการจัดการประมูลช่วงเดือน ม.ค. 61) โดยมีราคาเริ่มต้นของที่คลื่นละ 3.7 หมื่นล้านบาท อายุ 15 ปี ขณะที่ในด้านราคาหุ้น DTAC ได้ปรับตัวลงมาช่วงก่อนหน้า (MTD –18.3%) ใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะได้รับการคัดเลือกจาก TOT ให้เป็นคู่สัญญา (ราวเดือน พ.ค. 60 ในกรอบ ทำ Low อยู่ที่ 40.25 บาท) จึงน่าติดตามประเด็นดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และรอ “ซื้อเก็งกำไร” หากกรณี TOT ความคลี่คลายในทางบวก 

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้วันแรก : THMUI (ราคา IPO 2.55  บาท)

  • บมจ.ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลวดสลิงและอุปกรณ์เพื่อใช้สำหรับยกหิ้วที่มีคุณภาพ ปี 59 มีสัดส่วนรายได้หลักมาจากการขายสินค้า ได้แก่ ลวดสลิง สลิงผ้าใบ โซ่ อุปกรณ์ยกหิ้วและอื่นๆ คิดเป็น 19 % รายได้อีกส่วนมาจากการให้บริการ เช่น การทดสอบแรงดึง การเปลี่ยนลวดสลิง รวมไปถึงการบริการแนะนำและซ่อมแซม มีสัดส่วนรายได้ 7.59% ปี 59 มีกำไรสุทธิ 18.92 ลบ. +12%YoY 9M60 มีกำไรสุทธิ 24.69 ลบ. เพิ่มขึ้น 379.41%YoY
  • เงินทุนที่ได้จากการเสนอขาย IPO มูลค่า 53 ลบ. นำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ 147.53 ลบ. อีกส่วนใช้ชำระตั๋ว B/E จำนวน 60 ลบ. และลงทุนซื้อเครื่องทดสอบแรงดึง 10 ลบ.ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 30 ลบ. ถูกใช้ในการสร้างโกดังสินค้า
  • ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 18 เท่า เทียบกับบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจคล้ายคลึงกัน ซึ่งมีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 24.17 เท่า

หุ้นเริ่มซื้อขายวันนี้วันแรก : PORT (ราคา IPO 4.50 บาท)

  • บมจ.สหไทย เทอร์มินอล เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์และบริการอื่นที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีรายได้จาก 4 ธุรกิจหลัก คือ 1.ธุรกิจการให้บริการท่าเทียบเรือเชิงพาณิชย์ครบวงจร คิดเป็น 85.3% ของรายได้ 2. ธุรกิจการให้บริการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ทางบก สัดส่วน 5.3% 3.ธุรกิจการให้บริการพื้นที่จัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์และคลังสินค้า ประมาณ 5% และ 4. ธุรกิจการให้บริการที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ คิดเป็น 4.3% ปี59 มีกำไรสุทธิ 73.62 ลบ. โต 197%YoY ส่วน 9M60 มีกำไรสุทธิ 39 ลบ. ลดลง -92% ซึ่งสาเหตุหลักมาจากต้นทุนการบริการที่สูงขึ้น
  • เงินทุนที่ได้จากการเสนอขาย IPO มูลค่า 519.78 ลบ. นำไปใช้การขยายธุรกิจของบริษัทฯ จำนวน 240 ลบ. ชำระคืนเงินกู้อีกประมาณ 150 ลบ.ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 129.78 ลบ. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
  • ราคา IPO คิดเป็น Current PER ที่ 32.14 เท่า เทียบกับบริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจคล้ายคลึงกัน ซึ่งมีค่า PER เฉลี่ยเท่ากับ 31.80 เท่า

หุ้นมีข่าว   

·        ประเด็นบวกกลุ่มยานยนต์ ส.อ.ท.เพิ่มเป้าผลิตรถยนต์ปี 60 เป็น 1.95 ล้านคันตามตลาดในประเทศโต-คงเป้าผลิตส่งออก

·        ประเด็นลบ NYT ส.อ.ท.เผยยอดส่งออกรถยนต์ ต.ค.หดตัว 11.97% มาที่ 90,838 คันลง 7.65% จากเดือนต.ค.59

·        ECF คาดรายได้ปี 61 ไม่ต่ำกว่า 1.9 พันลบ. สรุปร่วมทุนธุรกิจผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้-โรงไฟฟ้าชีวมวล Q1/61 ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์  ขนาด 220 เมกะวัตต์ ประเทศเมียนมา ขณะนี้เริ่มก่อสร้างเฟสแรกแล้ว คาดว่าจะเริ่ม COD กลางปี 61

·        AGE (ราคาปัจจุบัน 1.88 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 2.35 บาท) บิ๊กบอส AGE ยันแผนร่วมทุนจีนล่าช้า ไม่กระทบยอดขาย การันตีตัวเลขปี 2560 โต 25-30% เปิดกรุรับทรัพย์ก้อนโตแดนมังกร 6 แสนตัน ส่องทิศทางปี 2561 โตต่อเนื่อง (ที่มา : ทันหุ้น)

·        ความเห็น การ Delay ของ บ.ร่วมทุนในจีน ล่าช้าไปกว่าคาดเพียง 1 - 2 เดือน ไม่กระทบกับประมาณการของฝ่ายวิจัยมากนัก อีกทั้งการเข้าสู่ช่วง High Season ในช่วง 4Q60 น่าจะหนุนปริมาณการจำหน่ายถ่านหินในช่วงท้ายของปีได้ และประเทศที่มีการเติบโตทั้ง จีน และ เวียดนาม จะเป็นโอกาสในการขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง รองรับด้วยสภาพคล่องทางการเงินที่ยังสามารถขยายปริมาณการจำหน่ายได้สูงสุดกว่า 1 เท่าตัวจากปัจจุบันที่ 2.3 - 2.5 ล้านตัน/ปี คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 2.35 บาท Upside ราว 25%

·        ORI (ราคาปิด 22.10 ราคาเหมาะสม IAA Consensus เฉลี่ย 24.06) ตั้งเป้ารายได้ปีหน้า 1.4 หมื่นลบ.จากปีนี้ 9 พันลบ.รับรู้ฯ backlog ราว 1 หมื่นลบ.จากทั้งหมดที่มี 2.9 หมื่นลบ. วางแผนเปิดโครงการใหม่ในปีหน้า 12 โครงการ มูลค่ารวม 2.5 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นจากปี 60 ที่เปิด 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.51 หมื่นลบ. ปี 2560 คงเป้าหมายยอดขาย 14,000 ลบ. และตั้งเป้าหมายรายได้อยู่ที่ 9,000 ลบ.

·        ORI มีโครงการอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC รวมมูลค่ากว่า 12,130 ลบ. แบ่งเป็นโครงการในศรีราชา จ.ชลบุรี มูลค่า 10,130 ลบ. และใน จ.ระยอง ประมาณ 2,300 ลบ. เริ่มพัฒนาโครงการแล้ว 2 โครงการได้แก่ 1.โครงการมิกซ์ยูส  "ออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบังศรีราชา" มูลค่า 5,000 ลบ. ซึ่งมีทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม และคอมมมูนิตี้มอลล์  2.โครงการคอนโดมิเนียม "ไนท์บริดจ์ ดิ โอเชี่ยน ศรีราชา" มูลค่า 2,500 ลบ. มียอดขายแล้วกว่า 70% อยู่ระหว่างทยอยโอน  ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการทำคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าหรือฮับโลจิสติกส์ ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่นบริษัท โนมูระ เรียล เอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด (NRED) คาดว่าจะเห็นความชัดเจนปีหน้า เริ่มทุนในปี 2562 เบื้องต้นมูลค่าการลงทุนราว 500 ลบ.

·        ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อความสม่ำเสมอของรายได้ในอนาคตที่มีทั้งรายได้เพื่อขายและรายได้ประจำ รวมทั้งความสามารถในการทำกำไร ผลการดำเนินงาน 9M60 มีกำไร 967 ลบ. +202%  โดยมี Gross margin 46.6% Net margin 24% แนวโน้ม  Q4 จะเติบโตสูงสุดรายไตรมาสของปีนี้จากการเริ่มโอนคอนโดหรู “The Park 24”ตั้งแต่เดือนต.ค.มูลค่ารวม 1.7 หมื่นลบ. backlog 1.09 หมื่นลบ. มีเป้าโอน 3 พันลบ. เดือนต.ค.โอนแล้ว 1 พันลบ. ทั้งนี้ ORI-W1 อัตราการใช้สิทธิ 1:1 ราคาใช้สิทธิ 20 บาทต่อหุ้น คาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ภายในวันที่ 27 พ.ย. 60 มีสถานะเป็น in-the-money

·        ตลท. ขอให้คณะกรรมการ APURE ชี้แจงเพิ่มเติมกรณีการลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของ IEC ทั้งที่ยังเสี่ยงอาจจดทะเบียนเพิ่มทุนไม่ได้

·        ก.ล.ต. ขอให้ผู้ถือหุ้น RCI ไปใช้สิทธิออกเสียงกรณีให้สัตยาบันการเข้าทำสัญญาซื้อขายสินค้ากับ DCC