4 เดือน ปชช.แจ้งปัญหาทุจริต-เดือดร้อน 3,012 เรื่อง

4 เดือน ปชช.แจ้งปัญหาทุจริต-เดือดร้อน 3,012 เรื่อง

คสช. เผย 4 เดือน ปชช.แจ้งปัญหาทุจริต-ความเดือดร้อน 3,012 เรื่อง ร้องเรียน ทหาร-ตร. 315 เรื่อง พร้อมใช้กลไกพื้นที่ติดตามผล

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 60 ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยการประชุมคณะทำงานกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดย พล.ท.สิงห์ทอง หมีทอง รองเสนาธิการทหารบก ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฯ เป็นประธาน ซึ่งประธานให้ความสำคัญต่อการติดตามผลความคืบหน้าและผลสำเร็จของการดำเนินการต่อเรื่องร้องเรียนที่ผ่านการกลั่นกรองของคณะทำงานฯ โดยเฉพาะเรื่องที่ส่งผลกระทบหรือสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชน

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับการทำงานของศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ในขณะนี้มีการปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมยิ่งขึ้น โดยเรื่องร้องเรียนที่ผ่านการกลั่นกรองจากคณะทำงานฯแล้ว จะมีการส่งข้อมูลให้หน่วยงานระดับพื้นที่ในสายงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดย ศปป.1 และ ศปป. 4 ,กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย และกองกำลังชายแดนของกองทัพบก เข้าช่วยตรวจสอบเบื้องต้นและติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินการให้มีความชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น ก่อนส่งผลการปฏิบัติโดยรวมให้ ศอตช. ดำเนินการต่อไป

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่วอีกว่า คณะทำงานได้สรุปการดำเนินงานต่อเรื่องร้องเรียนที่ประชาชนแจ้งผ่าน ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ คสช. ตลอดระยะเวลา 4 เดือนตั้งแต่ กรกฎาคม – พฤศจิกายน 2560 ซึ่งมีประชาชนร้องเรียนความเดือดร้อนในลักษณะต่างๆ เข้ามาจำนวน 3,012 เรื่อง แยกเป็น การแจ้งผ่านสายด่วน 1,024เรื่อง , ตู้ ปณ. 1,431 เรื่อง , แจ้งด้วยตนเองในส่วนกลาง 186 เรื่อง และแจ้งผ่านศูนย์รับเรื่องในภูมิภาค/หน่วยทหารทั่วประเทศอีก 371 เรื่อง

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า โดยข้อมูลส่วนใหญ่ยังคงเป็นการร้องเรียนเรื่องการประพฤติมิชอบ และการขอความช่วยเหลือจากปัญหาความเดือดร้อน อาทิ ปัญหาที่ดินทำกิน, ข้อพิพาททางกฎหมาย, การปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคในชุมชน และความล่าช้าในการได้รับสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ เป็นต้น ซึ่งศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ โดยคณะทำงานกลั่นกรองได้นำข้อมูลทั้ง 3,012 เรื่อง เข้าสู่กระบวนการพิจารณากลั่นกรองเป็นวงรอบทุกสัปดาห์ ควบคู่ไปกับการส่งต่อเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยเรื่องที่เป็นการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรง จะถูกส่งให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ส่วนเรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนจะส่งให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบเกี่ยวกับความเดือดร้อนนั้นๆ ดำเนินการแก้ไขตามอำนาจหน้าที่

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า สำหรับผลการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนทั้ง 3,012 เรื่อง ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาสรุปได้ดังนี้ 1. ส่งเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมเข้าข่ายประพฤติมิชอบให้ ศอตช. ดำเนินการตามกรรมวิธี จำนวน 447 เรื่อง โดย ศอตช. ได้นำเข้าสู่กรรมวิธีเรียบร้อยแล้ว 270 เรื่อง ในจำนวนนี้มีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว จำนวน 72 เรื่อง พร้อมกับได้นำเรื่องเข้าสู่การดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามความผิดในกรณีต่างๆ เช่น กรณีละเลยให้มีการปล่อยน้ำเสียลงสู่ลำน้ำสาธารณะและปัญหามลพิษ ,กรณีเอื้อประโยชน์การเสนอราคาสร้างถนน , กรณีรายงานข้อมูลเท็จในการเบิกเงินช่วยเกษตรกร , กรณีการจัดซื้อถุงยังชีพช่วยเหลือน้ำท่วมไม่ตรงตามความเป็นจริง , กรณีเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ประกอบการไม้แปรรูป และ กรณีการเบิกเงินค่าจ้างแรงงาน แต่กลับใช้เครื่องจักรทำแทน เป็นต้น

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า 2.เรื่องที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชน โดยไม่เกี่ยวกับการประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ ได้ส่งเรื่องไปให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี 1,465 เรื่อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการแก้ไขบรรเทาความเดือดร้อนตามช่องทางที่รัฐบาลมีอยู่ 3.เรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด จำนวน 315 เรื่อง ได้ส่งเรื่องให้ต้นสังกัดดำเนินการสอบสวน และมีผลการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว จำนวน 33 เรื่อง 4.เรื่องร้องเรียนที่ข้อมูลยังไม่เพียงพอ และรอรับรายละเอียดเพิ่มเติมจากผู้ร้อง 21 เรื่อง โดยจะนำเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองในห้วงต่อไป และ 5.เรื่องร้องเรียนที่ไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่จะสามารถดำเนินการได้ 764 เรื่อง

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวย้ำว่า อย่างไรก็ตาม ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนฯ ยังดำรงวัตถุประสงค์เดิมในการจัดตั้ง คือ จะให้ความสำคัญกับเรื่อง การทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐเป็นอันดับแรกก่อน จึงใคร่ขอความร่วมมือประชาชนใช้ช่องทางร้องเรียนให้เหมาะสมและขอได้รวบรวมข้อมูลที่ต้องการร้องเรียนให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ต่อการนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและแก้ไขต่อไป