(รายงาน) 1ปี “ผู้แทนพิเศษรัฐบาล” ความมั่นคง-การพัฒนา ดีมาก
(22 พ.ย.2560) มีการประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ครั้งที่ 7/2560 ณ ห้องยุทธนาธิการ ในศาลาว่าการกลาโหม พลเอก อุดมเดช สีตบุตร หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล มอบหมายให้นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขานุการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล พลเอกปราการ ชลยุทธ พลเอกมมณี จันทร์ทิพย์ นายพรชาติ บุญนาค ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ร่วมแถลงข่าวก่อนการประชุม ซึ่งมีการแจกเอกสารประกอบ โดยมีประเด็นต่างๆ ดังนี้
นับตั้งแต่มีคำสั่งแต่งตั้งผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่ประสานงานในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดการบูรณาการและมีประสิทธิภาพ เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม นั้น ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลได้ดำเนินการ ภายใต้กรอบนโยบายของนายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) ที่เน้นย้ำการพัฒนา และลดความรุนแรงในพื้นที่ รวมทั้งการสร้างความเข้าใจเพื่อให้เกิดความร่วมมือในการแก้ปัญหา และการติดตามประเมินผลโครงการต่างๆ อย่างใกล้ชิด ในรอบ 1 ปี สามารถสรุปผลการดำเนินการได้ ดังนี้
ด้านความมั่นคง ผลการประเมิน คะแนนเฉลี่ย 3.62 (จากคะแนนเต็ม 5) คิดเป็นร้อยละ 72.30 อยู่ในระดับมาก เนื่องจาก สถานการณ์การก่อเหตุที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการรักษาความปลอดภัย มากขึ้น ประชาชนส่วนใหญ่ปฏิเสธและไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรง นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหายาเสพติด ยังได้รับความร่วมมืออย่างดีจากจิตอาสาญาลันนันบารู ในการเข้าไปลดความต้องการและแก้ไขผู้ติดยาเสพติด
ด้านการพัฒนา ผลการประเมิน คะแนนเฉลี่ย3.88 (จากคะแนนเต็ม 5) คิดเป็นร้อยละ 77.65 อยู่ในระดับมาก เป็นผลมาจาก การเร่งรัดพัฒนาด้านต่างๆ ของรัฐบาล ที่ช่วยทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ดีขึ้น ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการประกอบอาชีพตามวิถีชีวิตดั้งเดิม เช่น ประมงพื้นบ้าน ที่สามารถจับสัตว์น้ำได้มากขึ้น การส่งเสริมการตลาดจำหน่ายได้มากขึ้น ราคาดีขึ้น มีการส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน มะพร้าว มากขึ้น มีโรงงานแปรรูปปาล์มและมะพร้าวที่จะลงทุนรับซื้อ มีการส่งเสริมการตลาดเพื่อช่วยเหลือช่องทางในการจำหน่ายผลผลิตสินค้าทั้งในและต่างประเทศ
นอกจากนั้น สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ ยังได้รับการดูแล ทั้งในเรื่อง -การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ : เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและเพื่อกักเก็บน้ำใช้ในฤดูแล้ง -การออกโฉนดที่ดินทำกินและพัฒนาชุมชนบริเวณพื้นที่เชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติบูโด ? สุไหงปาดี -การเร่งรัดติดตามการซ่อมและสร้างเส้นทางคมนาคมให้เกิดความสะดวก ปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการค้า -การดูแลสุขภาพ และความจำเป็นพื้นฐาน ซึ่งมีการจัดเก็บข้อมูล และเข้าไปดูแลประชาชนมากขึ้น ทั้งจากแพทย์ทหาร และสาธารณสุข
รวมทั้งการพัฒนาและสร้างโอกาสการศึกษา เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป เช่น การจัดการศึกษาแบบบูรณาการในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อตอบรับการพัฒนาเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน การมุ่งสู่อาชีวะเป็นเลิศ การขยายโอกาสทางการศึกษาไปสู่โรงเรียนปอเนาะ การสนับสนุนทุนการศึกษาทุกประเภท เป็นต้น
ด้านการสร้างความเข้าใจ ผลการประเมิน คะแนนเฉลี่ย 4.06 (จากคะแนนเต็ม 5) คิดเป็นร้อยละ 81.25 อยู่ในระดับมาก โดยได้มีการดำเนินการ ดังนี้ -การสร้างความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคมทั้งในและต่างประเทศ -การนำยุทธศาสตร์ชุมชนศรัทธากำปงตักวา มาสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ เพื่อป้องกันการนำหลักศาสนามาบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดที่อาจนำไปสู่การก่อเหตุรุนแรงและ -การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการแก้ปัญหาในพื้นที่
แนวทางขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปีงบประมาณ 2561
ด้านความมั่นคง มุ่งเน้นลดเหตุการณ์ความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และแก้ปัญหายาเสพติด รวมทั้งให้ทุก ภาคส่วนมีส่วนร่วมในกระบวนการพูดคุย และยกเลิกพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ในพื้นที่ที่มีความพร้อม
ด้านการพัฒนา มุ่งเน้นให้โอกาสทางการศึกษา สู่สังคมแห่งการเรียนรู้ ลดความยากจนและเพิ่มรายได้ให้กับประชาชน เพิ่มการบริการด้านสาธารณสุขให้ทั่วถึง ให้ความรู้ ความเข้าใจในหลักศาสนาที่ถูกต้อง ส่งเสริมกิจกรรมสังคมพหุวัฒนธรรมมากขึ้น เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ด้านการสร้างความเข้าใจ มุ่งเน้นสร้างความเข้าใจ การรับรู้การดำเนินการของรัฐบาลให้กับทุกภาคส่วน พร้อมทั้งร่วมมือให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหากับภาครัฐ มีเรื่องสำคัญที่จะผลักดัน คือ -การสนับสนุนการสร้างโรงไฟฟ้าชีวภาพ/ชีวมวล เพื่อแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน และช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้จากการร่วมผลิตจำหน่ายวัสดุที่เป็นเชื้อเพลิง -โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาสนับสนุนโครงการเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการขนส่งโลจิสติกส์ และ -การส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยในปี 2561 จัดให้มีคณะอนุกรรมการติดตามผลการดำเนินงาน และการประเมินผล อย่างใกล้ชิด
พลเอก ปราการ ชลยุทธ จะนำเสนอในวาระเพื่อทราบมีด้วยกัน 4 เรื่อง
1.การดำเนินการจัดตั้ง ชคต. 60 ชคต. ได้ดำเนินการฝึกจัดตั้ง อส. ชคต. ไปแล้ว 1 รุ่น 720 นาย อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการลงพื้นที่ปฏิบัติงานในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละ ชคต. และในขณะนี้กำลังมีการฝึกจัดตั้ง อส. ชคต. รุ่นที่ 2 จำนวน 720 นาย ณ โรงเรียนการกำลังสำรอง ค่ายธนรัชน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
2.การดำเนินการขับเคลื่อน จิตอาสาญาลันนันบารู เข้าปฏิบัติงานสู่กลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงการติดตามการปฏิบัติงานของ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กอ.รมน.ภาค 4 สน.
3.ติดตามงานต่อสู้ทางความคิดในนักเรียน นักศึกษา ตั้งแต่ เด็กเล็ก นักเรียนตาดีกา นักเรียนปอเนาะ จนไปถึงนักศึกษาระดับอุดมศึกษา
4.ให้แนวคิดเรื่องการปิดล้อมตรวจค้นให้ได้ใจประชาชน การดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอน หากมี การปะทะจน ผกร. เสียชีวิต ประชาชนก็จะเข้าใจและยอมรับในการปฏิบัติงานของฝ่ายเราซึ่งจะได้ผลทางการเมือง ส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อตอบโต้ฝ่ายเราได้ พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ 1. การสร้างความเข้าใจ 1.1 การดำเนินงานของภาครัฐต่อองค์การระหว่างประเทศ NGOs และ IGOs ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ จชต. ผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ขับเคลื่อน/บูรณาการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีกระทรวงการต่างประเทศ 1.2 การหารือ/วางแผนการสร้างความเข้าใจโดยการประชาสัมพันธ์ ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลจัดฝ่ายอำนวยการร่วมหารือกับหน่วยงานในกลุ่มภารกิจงานที่ 3 และ สง.คปต.ส่วนหน้า
2.งานสิทธิมนุษยชน 2.1 การสร้างองค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชนให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ และ การติดตามความคืบหน้าในกระบวนการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางกฎหมาย
3.งานหนุนเสริมเพื่อการพัฒนา 3.1 การหนุนเสริมกิจกรรมการรวมตัวของชุมชนเพื่อการก่อตั้ง ?สมาพันธ์ไทยพุทธ จชต.? ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของชุมชนชาวไทยพุทธในพื ้นที่ต่างๆ เพื่อเป็นองค์กรเชื่อมโยงเครือข่ายชาวพุทธในการร่วมมือสร้างความปลอดภัยในชุมชน และ การสร้างความเข้าใจของการอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม 3.2 การพัฒนาหมู่บ้านปิยะมิตร 1-5 ในการเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์เกษตรกรรม สืบเนื่องจาก เดือน พ.ค.61 การขอใช้พื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านปิยะมิตร 1-5 จากกรมทรัพยากรป่าไม้ โดยกองทัพบก (กองทัพภาคที่ 4) จะสิ้นสุดลง
นายพรชาติ บุญนาค ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลได้จัดทำ Road Map เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานเริ่มต้นในปีงบประมาณ 2560 กำหนดการดำเนินการไว้ 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 (ต.ค.-ธ.ค.59) เป็นการบูรณาการ ระยะที่ 2 (ม.ค.-ก.ย.60) เป็นการขับเคลื่อนงาน ระยะที่ 3 (ต.ค.-ธ.ค.60) ความต่อเนื่องเป็นการขยายผลการบูรณาการทำงานต่อไป
การปฏิบัติ ได้เชื่อมโยงจาก 7 กลุ่มภารกิจงาน เป็น 3 ด้าน คือ ความมั่นคง ด้านการพัฒนา และ การเสริมสร้างความเข้าใจ ดังนี้
1. ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย 1.1 การเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน 1.2การพัฒนางานอำนวยความยุติธรรมและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ 1.3 การเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ และการขับเคลื่อนนโยบาย
2. ด้านการพัฒนา ประกอบด้วย 2.1 การพัฒนาการศึกษา ศาสนาศิลปะ และวัฒนธรรม 2.2 การพัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ และคุณภาพชีวิตของประชาชน
3. ด้านการสร้างความเข้าใจ ประกอบด้วย 3.1 การเสริมสร้างความเข้าใจทั้งในพื้นที่และต่างประเทศ/เรื่องสิทธิมนุษยชน 3.2 การเพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี
เป้าหมายที่กำหนดไว้ ณ สิ้น ไตรมาส 4 ปี 2560 (ก.ย.60) คือ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ประชาชนมีโอกาสทางการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจในหลักศาสนา ดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุข และประชาชนมีความเข้าใจและร่วมมือแก้ไขปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี จากการประเมินผลการดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย อยู่ในเกณฑ์มาก (ร้อยละ 70 )
ในปีงบประมาณ 2561 ตั้งแต่ ต.ค.60 ถึง ธ.ค.60 เป็นห้วงขยายผล และปฏิบัติงานต่อเนื่องต่อไปในปี 2561 โดยกำหนดเป้าหมาย ณ สิ้นปีงบประมาณ 2561 คือ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ประชาชน มีความเข้าใจและร่วมมือในการแก้ไขปัญหากับภาครัฐ เศรษฐกิจเติบโตประชาชนมีรายได้สูงขึ้น ประชาชนมีโอกาสทางการศึกษา มีความรู้ความเข้าใจหลักศาสนา ดำเนินชีวิตอย่างปกติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อให้เข้าใกล้เป้าหมายสุดท้ายให้ได้มากที่สุด คือ สันติสุขอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน