'บิ๊กทัพเรือ' ยันไม่ป้อง 'พล.ร.ต.' เลือดร้อน!!

ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ วังนันทอุทยาน พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณีอดีตทหารเรือระดับพลเรือตรี เดินทางไปพบครูฝึกหลักสูตรการรบพิเศษ แขนงการลาดตระเวนสะเทินน้ำสะเทินบก และจู่โจม นายิกโยธิน (รีคอน) พร้อมทำลายสิ่งของทางราชการ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่บุตรชายพ้นสภาพเป็นนักเรือหลักสูตรดังกล่าว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถเข้าฝึกต่อได้ ว่า ทางพล.ร.ท.รัตนะ วงษาโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (ผบ.นย.) ได้รายงานเบื้องต้นให้ตนรับทราบแล้ว โดยตนสั่งการให้ตรวจสอบ และสอบสวนรายละเอียด พร้อมทั้งจะรีบแจ้งผลการตรวจสอบให้ตนทราบ ซึ่งคิดว่าเร็วๆนี้จะได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อไป

พล.ร.อ.นริส กล่าวต่อว่า ทั้งนี้หลักสูตรรีคอน เป็นหลักสูตรรบพิเศษแขนงหนึ่งของทหารเรือ ซึ่งต้องใช้ความอดทน และความสามารถพิเศษต่างๆ โดยตนจะเข้าไปดูว่าหลักสูตรนี้ได้ปฏิบัติตามที่กำหนดไว้ตามมาตรฐานหรือไม่ ถ้ายังไม่มาตรฐานก็จะต้องเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ด้านครูฝึก และหลักสูตรต่อไป หากตรวจสอบแล้วเป็นไปตามมาตรฐานที่เคยฝึกก็จะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับการฝึกรีคอนนั้น ยังคงดำเนินการต่อไป เพราะต้องรอผลการสอบสวนก่อน

"ทั้งหมดต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก้อน ถ้าบกพร่องด้านไหน ผมจะไปแก้ไขต่อไป ส่วนการชี้แจงกับฝ่ายผู้ปกครอง เราทำไปแล้ว ก็คิดว่าน่าจะเข้าใจ ผมได้พบกับคุณพ่อแล้ว ไม่ได้เป็นห่วงอะไร ซึ่งไปพูดคุยกัน และดูแลในเรื่องนี้ ก็ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ อย่างไรก็ตามขณะนี้ ผมขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน " พล.ร.อ.นริส กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พล.ร.ต.คนดังกล่าวเป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 16 รุ่นเดียวกับ ผบ.ทร. พล.ร.อ.นริส กล่าวว่า อย่าคิดว่าเป็นแค่เรื่องรุ่น ไม่ว่าจะเป็นใคร ตนก็ดำเนินการเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะใครก็ตาม ส่วนการทำลายทรัพย์สินทางราชการต้องแจ้งความหรือไม่นั้น ให้เป็นหน้าที่ของหน่วยดำเนินการ นอกจากนี้ พล.ร.อ.นริส ยังปฏิเสธตอบคำถาม กรณีข่าวเรือหลวงสีชัง ไม่สามารถพานักเรียนหลักสูตรรีคอน ทำการฝึกได้ นั้น ระบุเพียงว่า ยังไม่ได้รับรายงาน

ส่วนกรณีมีรายชื่อนักฟุตบอลราชนาวีสโมสรเกี่ยวข้องกับการล้มฟุตบอล ว่า เรื่องนี้ต้องให้พล.ร.อ.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะประธานสโมสรราชนาวี ดำเนินการตรวจสอบ โดยปกติถ้าเป็นข้าราชการทำผิดก็ต้องถูกลงโทษทางวินัย และอาญา ซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ทั้งนี้ต้องให้การสอบสวน และการหาข้อเท็จจริงมีความเรียบร้อยก่อน เมื่อได้ผลสรุปอย่างไรตนจะดำเนินการตามผลการสอบสวนนั้น อย่างไรก็ตามเราเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจง และให้ข้อเท็จจริงต่างๆ เพราะเราต้องฟังข้อมูลจากทุกๆฝ่าย

เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลถึงการทำทีมต่อไป หรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า ต้องไปถามประธานสโมสร