รวบ 2 โจ๋พ่อค้าน้ำใบกระท่อม ย่านลาดพร้าว

รวบ 2 โจ๋พ่อค้าน้ำใบกระท่อม ย่านลาดพร้าว

กองปราบรวบ 2 โจ๋พ่อค้าขายใบกระท่อมส่งภาคใต้ ค้นห้องพักพบยาเเก้ไอผสม “สี่คูณร้อย” กว่าพันขวด สารภาพนำเงินไว้เที่ยวเตร่

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รองผกก. 2 บก.ป. และพ.ต.ต.เอกพล ปัญจมานนท์ สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังจับกุม นายอนุชา หรือบอย ทิพม่อม อายุ 23 ปี ชาวจ.นครราชสีมา และนายวุฒิชัย หรือคิม ไหมบุญแก้ว อายุ 27 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง น้ำกระท่อม บรรจุอยู่ในขวดน้ำอัดลม จำนวน 1 ขวด สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 1 เล่ม และยาแก้ไอชนิดน้ำ ยี่ห้อ TENADRIN, A-NADRIL, ATISSI และ I-22SYRUP รวมจำนวน 1,215 ขวด โดยกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (อัลปราโซแลม) โดยผิดกฎหมาย ,มียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (ใบกระท่อม) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 (สี่คูณร้อย) โดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมได้ที่ร้านแฟมิลีมาร์ท สาขาลาดพร้าวไดร์ฟอินท์ ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ ก่อนนำตัวมาสอบปากคำที่กองปราบฯเมื่อค่ำวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.อรุณ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายยาแก้ไอและน้ำกระท่อมโดยผิดกฎหมายเพื่อนำไปเป็นส่วนผสมในการผลิตยาเสพติดที่ชื่อว่า “สี่คูณร้อย” โดยโฆษณาผ่านเฟสบุ๊ค ใช้ชื่อ “เสรีชน ชาวไทย เสี่ย บอย” ซึ่งจะส่งยาแก้ไอดังกล่าวให้ลูกค้าผ่านบริษัทที่ไปรษณีย์เอกชนที่ร้านแฟมิลี่มาร์ท สาขาลาดพร้าวไดร์ฟอิน จากการสืบสวนพบว่ามีชายวัยรุ่นได้เปิดร้านขายอะไหล่รถจักรยานยนต์แต่งในซอยลาดพร้าว 101 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง จึงได้นำกำลังไปดักซุ่มเพื่อสืบสวนจับกุม กระทั่ง นายอนุชา หรือบอย และนายวุฒิชัย หรือคิม ช่วยกันถือกล่องกระดาษสีน้ำตาล จำนวน 3 กล่อง ออกมาจากร้านดังกล่าว

ก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์ ไปจอดจอดรถที่หน้าร้านสะดวกซื้อ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม และขอตรวจค้นพบยาแก้ไอขวดสีชา บรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาล และยาอัลปราโซแลม บรรจุอยู่อยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล จึงจับกุมตัวดำเนินคดี และพาไปตรวจค้นที่ร้านมอเตอร์ และที่ห้องพักภายใน ซอยลาดพร้าว 101 แยก 11 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นห้องพักของ นายอนุชา จึงพบของกลางทั้งหมดจำนวนดังกล่าว

นายอนุชา ให้การรับสารภาพว่า ซื้อยาแก้ไอมาในราคาขวดละ 80 บาทจากร้านขายยา แล้วนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วไปขวดละ 120 บาท เพื่อเอากำไร และซื้อใบกระท่อมมาในราคากิโลกรัมละ 750 บาท และนำไปขายให้กับลูกค้าทั่วไปในราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท โดยได้เปิดเฟสบุ๊คในลักษณะของกลุ่มปิด เปิดรับสมาชิกเข้ามาในกลุ่ม จากนั้นก็จะให้สมาชิกในกลุ่มที่สนใจสั่งซื้อ โดยตนจะส่งสินค้าในลูกค้าผ่านมาไปรษณีย์ และโอนเงินให้ตนผ่านทางบัญชีธนาคาร โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าวขาดแคลนยาแก้ไอ และใบกระท่อม เนื่องจากเจ้าหน้าที่เข้มงวดจับกุม ตนจึงจัดส่งให้เพื่อหากำไรจากส่วนต่างหาเงินไปเพื่อกินเที่ยวต่อไป