รวบโจ๋งัดบ้านหรูคืนเดียว 3 หลัง ยึดของกลางอื้อ

รวบโจ๋งัดบ้านหรูคืนเดียว 3 หลัง ยึดของกลางอื้อ

ชาวกาฬสินธุ์ผวาขโมยชุก คืนเดียวงัดบ้าน 3 หลัง โชคดีตำรวจรวบได้ทัน พร้อมยึดของกลางอื้อ สารภาพก่อเหตุหลายพื้นที่

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 22 พ.ย. 60 พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์ แถลงผลการจับกุม นายเอกลักษณ์ พรหมแสง อายุ 20 ปี และนายอัจฉริยะ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาในคดีร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีของกลางทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปบางส่วน และรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน กรบ 79 ร้อยเอ็ด เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจ สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จับกุมได้ภายในบ้านเช่าถนนทุ่งศรีเมือง ต.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนยังรับสารภาพว่าเกิดเหตุในหลายพื้นที่อีกทั้งยังมีประวัติเสพยาเสพติดและถูกจับในคดีลักทรัพย์

จากนั้นได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้เข้าไปลักทรัพย์ ในบ้านของ ด.ต.สัมฤทธิ์ ภูปรางค์ ผบ.หมู่(ป.) สภ.กมลาไสย เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 60 ได้เงินสดไป 3,600 บาท จากนั้นได้ไปก่อเหตุอีกภายในหมู่บ้านหรู ตั้งอยู่บนถนนมาประณีต เทศบาลเมือง เหตุเกิดวันที่ 13 พ.ย. 60 เข้าไปลักทรัพย์ถึง 3 หลัง หลักแรกเป็นบ้านของ น.ส.จิราภรณ์ ภูผาลัย คนร้ายได้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ต นาฬิกาข้อมือ 2 เรือน กล้องถ่ายรูป บัตรกดเงินสดธนาคาร และเงินสด 400 บาท หลังที่สอง เป็นบ้านของ น.ส.ณพัชนันต์ เอื้อกิ่งเพชร คนร้ายได้เงินสดไป 7 หมื่นบาท และกำไรข้อมือ นาฬิกา พร้อมของมีค่ารวม 4 รายการ และหลังที่สามบ้านของ นายธนา สุขาภิรมย์ คนร้ายขโมยธนบัตร กระเป๋าสะพาย รวม 6 รายการ

นายเอกลักษณ์ สารภาพว่า ได้เข้าไปลักทรัพย์คนเดียว มีนายอัจฉริยะ เป็นคนดูต้นทาง โดยเลือกก่อเหตุหมู่บ้านจัดสรรที่มีราคาแพง เพราะเจ้าของบ้านมีฐานะ ทรัพย์สินจำนวนมาก เพราะคุ้มค่ากับการเสี่ยงเลือกตัวบ้านที่ไม่ติดลูกกรงโดยเฉพาะ ซึ่งนายเอกลักษณ์ ได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปก่อนที่จะปีนเข้าบ้าน อาศัยจังหวะในช่วงระหว่างเวลา 01.00 – 04.00 น. และบ้านไม่มีคนอยู่ ซึ่งได้สร้างความหวาดผวาให้กับผู้อยู่อาศัย

ด้านน.ส.ณพัชนันต์ เอื้อกิ่งเพชร อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ปัญหานี้ต้องการให้ รปภ.หมู่บ้านตรวจสอบป้องกันให้มากกว่านี้เนื่องจากจ่ายค่าส่วนกลาง แต่ปล่อยให้มีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาส่วนนางบัวเฮือง ถิ่นมีผล อายุ 67 ปี ผู้เสียหาย บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุอยู่กับหลานสองคน ได้ยินเสียงคนเข้ามาขโมยของ แต่ไม่กล้าออกมา เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย

ขณะที่ พล.ต.ต.มนตรี กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้งสองรายนี้เชื่อว่าได้ก่อเหตุในหลายท้องที่ เพราะในเขตอำเภอยางตลาดก็มีการลักทรัพย์หมู่บ้านจัดสรร จากการสอบประวัติพบเกี่ยวพันยาเสพติด สำหรับผู้เสียหายที่คาดว่าจะถูกสองคนร้ายนี้ขโมยของก็สามารถติดต่อเพื่อของตรวจสอบของกลางที่ตำรวจได้ทำการยึดมาได้