ผุดกองทุนกศ. เอื้อเด็กยากจน 4.3 ล้านคน

ผุดกองทุนกศ. เอื้อเด็กยากจน 4.3 ล้านคน

ครม.ไฟเขียวตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พร้อมจัดสรรงบฯประเดิมกองทุน 1 พันล้านบาท เปิด 6 ช่องทางใส่เงินเข้ากองทุน คาดขนาดกองทุนไม่ต่ำกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท หรือ 5% ของค่าใช้จ่ายการศึกษาของชาติ ตั้งเป้าเพิ่มโอกาสการศึกษาผู้ยากไร้ 4.3 ล้านคน

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานวานนี้ (21 พ.ย.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ.... ตามที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาเสนอ พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านบาทเพื่อเป็นทุนประเดิมการจัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาที่จะดำเนินการได้ในปี 2561

คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษารายงานให้ที่ประชุม ครม.รับทราบว่าการจัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 54 วรรค 6 ซึ่งกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเพื่อใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน ซึ่งจะเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในการศึกษา และเสริมสร้างประสิทธิภาพและคุณภาพครู โดยมีการสำรวจพบว่าปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษาที่ขาดโอกาสในการศึกษาทั่วประเทศเป็นจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 4.3 ล้านคน

โดยกองทุนฯนี้มีกลุ่มเป้าหมายของกองทุนได้แก่ เด็กเล็กและเด็กก่อนวัยเรียนที่ครอบครัวขาดแคลนทุนทรัพย์ เด็กและเยาวชน ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยอากาศจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ม.6) ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้ได้รับการพัฒนาเพื่อให้มีความสามารถในการประกอบอาชีพ พัฒนาครูและอาจารย์ และพัฒนาระบบข้อมูลและระบบอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาการศึกษาเพื่อผู้ด้อยโอกาสและผู้มีรายได้น้อย

ทั้งนี้คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษามีการประเมินเบื้องต้นว่าขนาดของกองทุนความเสมอภาคทางการศึกษาควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 5% ของงบประมาณและค่าใช้จ่ายทางการศึกษาทั้งหมดของประเทศหรือประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท โดยมีการระบุที่มาของแหล่งเงินทุนในกองทุนฯ 6 ส่วน ประกอบไปด้วย 1.เงินที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นทุนประเดิม 1000 ล้านบาท 2.เงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้เป็นรายปีซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 5% ของเงินงบประมาณแผ่นดินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา 3.เงินที่ผู้เสียภาษีบริจาคให้กับกองทุน 4.เงินรายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล 5.เงินที่ได้จากการออกสลากเพื่อการศึกษา และ 6.เงินทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้

นอกจากนี้ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งครม.แต่งตั้งจำนวนหนึ่งคน เป็นประธานกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่ง ครม.แต่งตั้งให้เป็นกรรมการอีก 6 คน ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเป็นกรรมการ โดยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการทำงานครั้งละ 3 ปี

“นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการเพิ่มเติมว่าในการจัดทำกฎหมายกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ให้ดำเนินการโดยมุ่งไปสู่เป้าหมายของรัฐบาล คือการสร้างความเท่าเทียมในเรื่องของความเสมอภาคการศึกษาเด็กปฐมวัย การให้ทุนการศึกษาผู้ที่ไม่มีความสามารถเข้าถึงระบบการศึกษา ให้สอดคล้องกับระดับรายได้ ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการเสริมช่องว่างของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนการลดหย่อนภาษีเงินบริจาคให้ใช้หลักการเดียวกับการบริจาคเพื่อช่วยเหลือการศึกษาซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์ไว้แล้วก่อนหน้านี้” นายกอบศักดิ์ กล่าว