‘ยูมิบายคีนน์’ตามรอยสำเร็จดูปองท์

‘ยูมิบายคีนน์’ตามรอยสำเร็จดูปองท์

คีนน์ โดดเข้ามาทำตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ในครัวเรือนผ่านแบรนด์ “ยูมิ บายคีนน์” หวังเดินตามรอย 3เอ็มและดูปองท์ที่ขยับจากอุตสาหกรรมสู่ตลาดครัวเรือน

คีนน์ ( KEEEN) ประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพกับอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สารชีวบำบัด พร้อมคุณสมบัติย่อยสลายโมเลกุลน้ำมัน บำบัดน้ำเสีย ขจัดไอระเหยและคราบสกปรกที่กำจัดยาก

แม้แต่คราบน้ำมันในทะเลจนถึงกลิ่นเหม็นในโรงงานได้อย่างครบวงจร และที่สำคัญคือ ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างทำลายสิ่งแวดล้อมคีนน์ ( KEEEN) ประสบความสำเร็จในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชีวภาพกับอุตสาหกรรม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สารชีวบำบัด พร้อมคุณสมบัติย่อยสลายโมเลกุลน้ำมัน บำบัดน้ำเสีย ขจัดไอระเหยและคราบสกปรกที่กำจัดยาก แม้แต่คราบน้ำมันในทะเลจนถึงกลิ่นเหม็นในโรงงานได้อย่างครบวงจร และที่สำคัญคือ ไม่ก่อให้เกิดสารเคมีตกค้างทำลายสิ่งแวดล้อม


ความสำเร็จของคีนน์ไม่ใช่จุดสุดท้ายของการพัฒนาธุรกิจ “วสันต์ อริยพุทธรัตน์” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท คีนน์ จำกัด จึงโดดเข้ามาทำตลาดผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอเนกประสงค์ในครัวเรือนผ่านแบรนด์ “ยูมิ บายคีนน์” หวังเดินตามรอย 3เอ็มและดูปองท์ที่ขยับจากอุตสาหกรรมสู่ตลาดครัวเรือน 


ไบโอออร์แกนิคในครัวเรือน


ในยุคเศรษฐกิจฐานชีวภาพนี้ ธุรกิจจุลินทรีย์หรือผลิตภัณฑ์สารชีวบำบัดจะเติบโตอย่างน้อย 2-3 เท่า เพราะเทรนด์โลกหันมาใส่ใจเรื่องความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ดังนั้น ผลิตภัณฑ์สารชีวบำบัดไม่ได้อยู่เฉพาะแค่วงการอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่สามารถนำมาใช้เชิงสุขภาพและความงามได้ด้วย เช่น น้ำลายแมงมุมกลายเป็นสารทำให้หน้าขาว หรือการนำจุลินทรีย์มาลดไอแก๊สหรือนำจุลินทรีย์มาใช้ในการแปลงอาหารเสียเป็นปุ๋ย จึงถือเป็นนวัตกรรมที่ต่อยอดนวัตกรรม ซึ่งกระบวนการทั้งหมดเกิดจากจุลินทรีย์
ทั้งคีนน์และยูมิเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอเทคโนโลยีจากจุลินทรีย์ที่ใช้ย่อยสลายคราบไขมัน โดยคีนน์ตอบโจทย์ผู้ใช้ทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหาร โรงพยาบาล ร้านอาหารและที่พักอาศัย ขณะที่ยูมิซึ่งภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ทะเล เป็นการพัฒนาสูตรของคีนน์มาใส่ในแพกเกจจิ้งที่เล็กลง อัตราส่วนสูตรผสมพร้อมใช้สำหรับตลาดครัวเรือนและผู้ใช้ทั่วไป  จากการสำรวจพบว่า น้ำยาทำความสะอาดขจัดกลิ่นและคราบไขมันนั้น สามารถแก้ปัญหาหนึ่งแต่กลับไปสร้างอีกปัญหาหนึ่ง เช่น ช่วยแก้ปัญหาคราบไขมันบนพื้นหรืออุปกรณ์ แต่ก็ทำให้ไขมันไปรวมตัวอุดตันอยู่ในท่อ จึงเป็นช่องว่างให้ยูมิชูจุดขายในการเป็นโฮมโซลูชั่นที่นำจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาบำบัดไขมันและสิ่งสกปรกให้ย่อยสลาย เสริมด้วยเทคโนโลยีนาโนเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


อาทิ ผ้านาโนฆ่าเชื้อโรคสูตรออร์แกนิค ทดแทนผ้าเปียกที่ใช้เช็ดมือให้สะอาดอย่างเดียว ขณะที่ยูมิสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยทั้งยังเคลือบบนผิวหนังช่วยป้องกันเชื้อโรคเกาะติดได้อีกระดับหนึ่ง จึงเป็นคำตอบให้กับการนำสารธรรมชาติที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอย่างกานพลูและยูคาลิปตัสมาเป็นวัตถุดิบ พร้อมทั้งทำให้โมเลกุลเล็กลงเพิ่มประสิทธิภาพการยับยั้งแบคทีเรียและถนอมผิว 24 ชั่วโมง สามารถนำไปใช้ในครัวเรือนหรือพกติดตัว นอกจากผ้าเปียกเช็ดฆ่าเชื้อโรคแล้วก็ยังมีโฟมล้างมือสูตรออร์แกนิคนาโน, สเปรย์ออร์แกนิคฆ่าเชื้อรา ไวรัสและแบคทีเรีย ขณะที่ในตลาดเป็นผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอมเพื่อกลบกลิ่นเหม็น แต่ยูมิสามารถขจัดกลิ่นที่ต้นตอและฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย, ผลิตภัณฑ์ผงขจัดคราบเข้มข้นสูตรออร์แกนิคใช้ขจัดคราบสกปรกทั่วไป คราบชากาแฟหรือคราบฝังแน่นและตะกรัน ที่ปลอดภัยและไร้สารตกค้าง


ฉีกกฎตลาดสร้างจุดขาย


วสันต์ กล่าวว่า เกือบ 1 ปีที่ผ่านมาผลตอบรับดี โดยแนวทางการทำตลาดแตกต่างจากที่เคยทำในวงการอุตสาหกรรม เพราะเป็นสินค้านวัตกรรมจำเป็นต้องสื่อสารมากเป็นพิเศษเพื่อนำเสนอข้อมูลแก่ผู้บริโภค รวมทั้งใช้สีแดงส้มเพื่อให้เกิดความโดดเด่นและแตกต่างจากสินค้าทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะเป็นสีเขียว


“เรามองว่า กรีนโปรดักส์ไม่จำเป็นต้องเป็นสีเขียวเท่านั้น เพราะการวางอยู่บนชั้นแสดงสินค้านั้น หากสีไม่โดดเด่น สินค้าจะจมหรือกลมกลืนไปกับสินค้าอื่นบนชั้น บรรจุภัณฑ์ยูมิจึงถูกออกแบบให้เป็นสีแดงส้ม ซึ่งเป็นสีแห่งความกระตือร้อร้น และเป็นสินค้านวัตกรรมระดับพรีเมียมแต่ราคาไม่แพง” 


ปัจจุบันเริ่มส่งออกไปญี่ปุ่นและมาเลเซียผ่านดีลเลอร์ ที่มองเห็นโอกาสการทางการตลาด ส่วนตลาดในประเทศมีจำหน่ายในร้านขายยาเซฟแอนด์เซฟ ร้านสบายใจรวมถึงร้านค้าออร์แกนิคและกำลังเจรจาร้านบูทส์ วัตสันและซูเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม ควบคู่กับการสื่อสารผ่านทางโซเชียลมีเดีย  “ขณะที่ยอดขายของคีนน์กำลังขยับจะแตะ 800-1,000 ล้านบาท แถมยังกวาดรางวัลจากทั่วโลกมาแล้วกว่า 10 รางวัล  แต่ในส่วนของยูมิยังไม่ได้ตั้งเป้าตัวเลข เพียงแค่ต้องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ให้เกิดขึ้นภายใน 1 ปีโดยอาศัยชื่อเสียงของคีนน์จากวงการอุตสาหกรรมมาสู่แบรนด์ในตลาดคอนซูเมอร์ เหมือนกับแบรนด์ 3 เอ็มหรือดูปองท์ ต่างได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคทั่วโลกเป็นอย่างดี” วสันต์ กล่าว