จับรถหรู ขนตัวนิ่มล็อตใหญ่คาด่านยึดได้100ตัว

จับรถหรู ขนตัวนิ่มล็อตใหญ่คาด่านยึดได้100ตัว

ตร.ชัยภูมิสกัดจับรถหรูลอบขนตัวนิ่มล็อตใหญ่คาด่าน ยึดได้นับ 100 ตัวหนักกว่าตัน เตรียมลอบขนส่งออกประเทศเพื่อนบ้านผ่าน จ.หนองคาย มูลค่าสูงกว่า 3-5 ล้านบาท

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 21 พ.ย.60 ภายใต้การสั่งดำเนินการของพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ที่มอบหมายให้ทางด้าน พ.ต.ต.พีระพงษ์ จบศรี สว.สภ.ช่องสามหมอ สั่งระดมกำลังตั้งด่านตรวจบูรณาการอำนวยความสะดวกประชาชนระหว่างเดินทาง และเป็นจุดสกัดจับการลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมายที่อาจจะเข้ามาในพื้นที่ได้ในช่วงนี้หลังหน่วยงานชุดสืบสวนจังหวัดแสวงหาข่าวมาได้ จนล่าสุดได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ชาญวิทย์ กิตติเมธาวี รอง สว.(สอบสวน)สภ.ช่องสามหมอ ว่ามีรถหรูต้องสงสัยจำนวน 2 คัน เข้าผ่านเข้ามาในด่านตรวจบูรณาการ ช่องสามหมอ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ จึงได้แสดงตัวขอตรวจค้นภายในรถทั้ง 2 คันดังกล่าว

โดยคันแรก เป็นรถยนต์สปอร์ตไลเด้อ สีบรอนเงิน ป้ายทะเบียน ศล135กรุงเทพมหานคร คันที่ 2 เป็นรถนั่งส่วนบุคคลสปอร์ตไลเด้อ สีบรอน ป้ายทะเบียน วล7821กรุงเทพมหานคร โดยทั้ง 2 คัน ถูกเจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น และ พบตัวนิ่ม ซึ่งเป็นสัตว์หวงห้ามห้ามีไว้ในความครอบครองว จึงสามารถตรวจค้นยึดออกมาจากรถหรูทั้ง 2 คัน ได้รวมจำนวนมากกว่า 105 ตัว ชั่งน้ำหนักของตัวนิ่มที่ลักลอบขนมาครั้งนี้ได้รวมกว่า1ตัน มูลค่าในตลาดมืดหากนำส่งออกไปได้สูงมากว่านับ 3-5 ล้านบาท

จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คัน ที่ขับรถหรูทั้ง 2 คันมาดำเนินคดี 2 ราย ประกอบด้วย นายปราโมทย์เกิดลมูล อายุ 32 ปี และนาย พะเยาว์ทรัพย์สินธุ อายุ 38 ปี ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 รายให้การว่า ทั้งสองไปหารับซื้อตัวนิ่มมาจาก ลาดหลุมแก้ว เพื่อไปส่งขายต่อที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย เพราะช่วงนี้ตลาดตามประเทศเพื่อนบ้านมีความต้องการมาก และมีราคาดีในการขนไปส่งในแต่ละครั้ง แต่พอมาถึงที่ด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น จึงถูกจับเสียก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวมาแถลงข่าวที่หน้าสภ.ช่องสามหมอ

โดยมีพล.ต.ต.ศิริศักดิ์ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3 เดินทางมาร่วมแถลงและตรวจสอบของกลางการดำเนินคดีด้วยตนเอง ก่อนที่จะส่งมอบผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้ร.ต.อ.เดชา บำรุงราษ พนักงานสอบสวนสภ.ช่องสามหมอ รับตัวไปควบคุมเพื่อส่งดำเนินคดีในเบื้องต้น ในข้อหาร่วมกันมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครอง(ตัวนิ่ม) โดยไม่ได้รับอนุญาตและผิดกฎหมายต่อไป