'ลีน่าจัง'พร้อมผู้เสียหาย ร้องกองปราบฯ เอาผิดร้านทำฟัน

'ลีน่าจัง'พร้อมผู้เสียหาย ร้องกองปราบฯ เอาผิดร้านทำฟัน

“ลีน่า จัง” พาผู้เสียหายร้องกองปราบฯ เอาผิดคลีนิคทันตแพทย์ย่านบางกรวย ใช้พนักงานร้านอ้างว่าเชี่ยวชาญรักษาครอบฟันแทนแพทย์

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 พฤศจิกายน 2560 ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นางลีนา จังจรรยา หรือ “ลีน่าจัง” พร้อมด้วย นายศุภวิชญ์ เกิดสมบรูณ์ อายุ 22 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และนายทวีทรัพย์ บ่างพัฒนาศิริ อายุ 52 ปี สาวประเภทสอง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สุชาติ อิ่มสวัสดิ์ สว(สอบสวน).กก 2 บก.ป. เพื่อแจ้งความเอาผิดคลีนิคทันตแพทย์แห่งหนึ่งในอ.บางกรวย จ.นนทบุรี ในความผิด ตามพ.ร.บ.ทันตกรรม ปี 2537 หลังผู้เสียหายเข้าไปใช้บริการ แต่ทางคลีนิกให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์มาเป็นผู้รักษา โดยนำเอกสารหลักฐานและฟันที่หลุดเสียหายมามอบให้พนักงานสอบสวนประกอบการพิจารณาคดี

นางลีนา เปิดเผยว่า วันนี้มาในฐานะทนายความให้แก่ผู้เสียหายทั้งสองคน รวมทั้งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งมาแจ้งความดำเนินคดีกับคลีนิคทันตแพทย์แห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งผู้เสียหายนั้นได้ไปทำการครอบฟันขาวที่คลีนิกดังกล่าวแล้วปรากฎว่าทางคลีนิกได้ให้ผู้ที่ไม่ใช่แพทย์มาเป็นผู้ให้การรักษา อีกทั้งฟันขาวที่ครอบไปนั้นก็ชำรุดหลุดออก จนต้องเสียเงินในการครอบฟันใหม่อีกครั้ง

ด้าน นายศุภวิชญ์ กล่าวว่า รู้จักคลีนิกดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ค ซึ่งคลีนิกดังกล่าวมีการโฆษณาว่าโปรโมชั่น ครอบฟันขาว 16 ซี่ ราคา 3,500 บาท ซึ่งถือว่าราคาถูกกว่าที่อื่น จึงตัดสินใจเข้าไปใช้บริการ แต่ปรากฎว่าหลังจากการครอบฟันเสร็จแล้วทราบว่าผู้ที่เป็นคนให้บริการไม่ใช่แพทย์แต่อย่างใด นอกจากนี้เช้าวันรุ่งขึ้นพบว่าฟันที่ครอบมานั้นหลุดออกบางซี่ จึงได้เดินทางไปแจ้งทางคลีนิกขอให้ครอบให้ใหม่ แต่ทางคลีนิกได้คิดค่าบริการในราคาซี่ละ 400 บาท ทั้งนี้ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดคลีนิกดังกล่าว

เช่นเดียวกับนายทวีทรัพย์ ระบุว่า ได้ไปใช้บริการคลีนิกดังกล่าวเช่นกันโดยได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนว่าที่นี้ราคาถูก ซึ่งตอนนั้นตนได้โปรโมชั่นครอบฟันขาว 16 ซี่ราคา 2,500 บาท ถือว่าถูกมาก แต่เมื่อไปใช้บริการปรากฎว่าแพทย์ไม่ได้เป็นผู้ที่ครอบฟันให้กลับเป็นพนักงานภายในร้านโดยอ้างว่ามีความเชี่ยวชาญ และเมื่อกลับมาที่บ้านฟันที่ครอบขาวมาได้หลุดถึง 3 ซี่ จึงเป็นเหตุผลที่มาแจ้งความดำเนินคดี

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ซึ่งพิจารณาแล้วเข้าข่ายความผิดเกี่ยวกับผู้บริโภคจึงได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ต่อไป