'เจเคเอ็น' เคาะไอพีโอ 8 บาท

'เจเคเอ็น' เคาะไอพีโอ 8 บาท

เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย เคาะไอพีโอ "8 บาท" หลังบุ้คบิวด์พบสถาบันสนใจสูง เปิดจองซื้อ 22-24 พ.ย. พร้อมเข้าเทรดตลาดเอ็ม เอ ไอ 30 พ.ย. นี้ ประกาศรุกคอนเทนท์ข่าวหลังคว้าลิขสิทธิ์ซีเอ็นบีซี

นายคมกฤต มีคำสัตย์ Senior Vice President บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) เปิดเผยว่า หลังทำการสำรวจความต้องการซื้อ (Book Building) ของนักลงทุนสถาบัน เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมา โดยมีราคาเสนอขายที่ 7.80 - 8.00 บาทต่อหุ้น พบว่า นักลงทุนสถาบันได้แสดงความต้องการซื้อหุ้นที่ราคาสูงสุดหุ้นละ 8.00 บาท ซึ่งมีความต้องการซื้อคิดเป็น 8 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบันทั้งสิ้น 35% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขาย ที่เหลือเป็นการจัดสรรให้แก่นักลงทุนรายย่อย 52% และผู้มีอุปการคุณ 13%

ทั้งนี้ จากความต้องการจองซื้อของนักทุนสถาบันที่มีมากกว่าหุ้นที่จัดสรรให้ถึง 8 เท่าดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย ที่นักลงทุนให้ความเชื่อมั่นถึงแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตได้ดีในอนาคต ดังนั้น จึงได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 8.00 บาท โดยกำหนดให้นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นได้ตั้งแต่วันที่ 22-24 พฤศจิกายนนี้ และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 นี้

สำหรับ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย หรือ JKN มีทุนจดทะเบียนจำนวน 270 ล้านบาท แบ่งเป็น 540 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยมีทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้วจำนวน 200 ล้านบาท และจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 140 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 25.93 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเกี่ยวข้องกับธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้สำหรับการดำเนินการทั่วไป และเพื่อลงทุนหรือขยายธุรกิจของบริษัทย่อย ส่วนที่เหลือจะชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงินและ/หรือชำระคืนหนี้หุ้นกู้

นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) กล่าวว่า บริษัทมีจุดแข็งด้านลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่จำหน่ายหลายรายการเป็นสิทธิ์แบบ Output Deal จากเจ้าของสิทธิ์ ทำให้ในระหว่างได้รับสิทธิ์นั้น JKN มีสิทธิ์เลือกคอนเทนต์จากเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อนเป็นบริษัทแรก และมีโอกาสขยายธุรกิจไปในประเทศใกล้เคียงจากสิทธิ์บางส่วน ที่ครอบคลุมการจำหน่ายคอนเทนต์ในประเทศใกล้เคียง เช่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 873.60 ล้านบาทเพิ่มจากงวดเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 280.31 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 47.25% โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ค่าสิทธิ์ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 95.24% ของรายได้รวมในงวดเก้าเดือนปี 2560 ในส่วนของกำไรสุทธิสำหรับงวดเก้าเดือนปี 2560 เท่ากับ 176.11 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 เท่ากับ 39.96 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ในปี 2559 บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิจาก National Broadcasting Company Universal (NBC) เพื่อซื้อและผลิตคอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ Consumer News and Business Channel (CNBC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนที่มีชื่อเสียงของโลก โดยสัญญามีระยะเวลา 10 ปี (2560-2570) ทั้งนี้ สิทธิ์ที่ได้รับแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ในส่วนแรก ตั้งแต่ปี 2560-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการนำเสนอคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ที่ผลิตและออกอากาศในต่างประเทศมาทำการตัดต่อ แปล และพากษ์เสียงภาษาไทยสำหรับจำหน่ายต่อผู้ประกอบการสถานีโทรทัศน์เพื่อออกอากาศในประเทศไทย โดยได้เริ่มจำหน่ายคอนเทนต์รายการภายใต้แบรนด์ CNBC ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจสถานีโทรทัศน์แบบดิจิตอล เช่น ช่อง 3 และ Bright TV ตั้งแต่ไตรมาส 2 ที่ผ่านมา

ส่วนที่ 2 ในช่วงปี 2562-2570 บริษัทฯ ได้รับสิทธิในการผลิตรายการที่มีโครงสร้างรูปแบบรายการตามรายการของแบรนด์ CNBC โดยใช้พิธีกรและผู้ดำเนินรายการคนไทยในการผลิตรายการเกี่ยวกับข่าวธุรกิจและการลงทุนเพื่อออกอากาศในช่อง JKN CNBC ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทฯย่อย ได้แก่ บริษัท เจเคเอ็น นิวส์ จำกัด โดยในระหว่างการเตรียมดำเนินการดังกล่าว ทาง CNBC ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่มาฝึกอบรมให้แก่ทีมงาน เพื่อผลิตรายการให้ได้คุณภาพเท่าเทียมกับมาตรฐานสากลของ CNBC โดยบริษัทฯ จะลงทุนสร้างห้อง Master Control Room (MCR) ซึ่งเป็นห้องสำหรับการออกอากาศและลงทุนในอุปกรณ์ออกอากาศและผลิตรายการอีกด้วย