สตม.แถลงจับเฮโรอีน 42 กก.มูลค่ากว่า70ล้าน

สตม.แถลงจับเฮโรอีน 42 กก.มูลค่ากว่า70ล้าน

ผบช.สตม. แถลงจับหนุ่มชาวลาว ลักลอบขนเฮโรอีน น้ำหนักกว่า 42 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท รับสารภาพรับค่าจ้าง 3 หมื่น เพื่อนำไปส่งให้เอเย่นย่านปากน้ำ

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560  พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัย รรท.รอง ผบช.สตม.(ปป) , พล.ต.ต.กิตติกร บุญสม รรท.ผบก.ตม.4 } พ.ต.อ.พัลลภ  สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.จว.หนองคาย ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายเตี้ย คอนนาจัน อายุ  37 ปี ผู้ต้องหาชาวลาว พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เฮโรอีน จำนวน 112 ก้อน ก้อนละประมาณ 380 กรัม น้ำหนักรวม 42.65 กก. มูลค่าประมาณ 70 ล้านบาท โดยจับกุมได้ที่ ลานจอดรถปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาบิ๊กเจียงหนองคาย เมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลว่า จะมีชาวลาวขับรถขนยาเสพติดมาจอดทิ้งไว้ภายในลานจอดรถปั๊มน้ำมัน ปตท. สาขาบิ๊กเจียงหนองคาย ดังนั้น จึงได้ทำการวางแผนเข้าจับกุมเอาไว้ได้ โดยขณะนี้ยังทราบถึงบุคคลปลายทางที่เตรียมมารับยาเสพติดดังกล่าวด้วยเช่นกัน  แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความบริสุทธิ์ของเฮโรอีนของกลางพบว่า เป็นชุดที่มีคุณภาพดีมากระดับ เกรด A และมีราคาสูงหากนำไปจำหน่ายในประเทศยุโรป จะมีมูลค่ากว่า 100 ร้อยล้านบาท อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ บก.สส.สตม. ทำงานร่วมกับ บช.ปส. ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปถึงผู้ร่วมขบวนการ และติดตามตัวเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีและยึดทรัพย์ตามกฎหมายต่อไป

ทางด้าน พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า การจับกุมเฮโรอีนครั้งนี้ ถือว่าเป็นการจับยาเสพติดประเภทเฮโรอีนที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เนื่องจากที่ผ่านมา ยาเสพติดที่จับกุมได้จะเป็นยาบ้าและกัญชา ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พ.ย. เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ได้รับแจ้งจากสายลับให้เข้าตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ซึ่งได้ว่าจ้างรถยนต์ให้รับจากริมแม่น้ำโขงเพื่อไปส่งยังกรุงเทพฯ จากการเข้าตรวจสอบพบเฮโรอีนแพ็คสีเขียวด้านหน้าเขียนอักษรAK ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้สะพายหลังจำนวน 3 ใบ วางไว้ท้ายรถเก๋งคันดังกล่าวจำนวน 112 แพ็ค น้ำหนักประมาณ 42.65 กิโลกรัม ดังนั้น จึงทำการจับกุมผู้ต้องหามาทำการสอบสวนและจะขยายผลต่อไป   

ขณะที่ นายเตี้ย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวลาวเป็นเงินจำนวน 30,000 บาท ให้นำยาเสพติดข้ามมาจากฝั่งลาว ทางช่องทางธรรมชาติ ซึ่งตนทำครั้งนี้เป็นครั้งแรก โดยตนนั่งเรือข้ามมาจากฝั่งลาว มาขึ้นท่าเรือที่ อ.เมือง จ.หนองคาย อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย –ลาว จ.หนองคาย ประมาณ 7 กิโลเมตร โดยให้นำไปส่งนายทุนที่ฝั่งไทย ย่านจังหวัดสมุทรปราการและปริมณฑล ซึ่งก่อนหน้านี้มีชาวลาวขับรถยนต์ที่บรรจุเฮโรอีนของกลางมาจอดไว้ในตัวเมืองหนองคาย ก่อนที่จะนั่งเรือมาส่งตน และชาวลาวคนดังกล่าวได้นั่งเรือกลับประเทศไป จากนั้นตนได้ขับรถเตรียมไปส่งในพื้นที่เป้าหมาย ก่อนจะถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

เบื้องต้นนายเตี้ย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากนั้นจึงได้ควบคุม นำส่ง พงส.บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป