Daily Strategy (20 พ.ย.60)

Daily Strategy (20 พ.ย.60)

กลับมาเน้น Domestic

กลยุทธ์การลงทุน: ตลาดหุ้นไทยคาดการณ์ขยับบวกต่อ คาดหวังว่ามีเงินไหลเข้าตลาดหุ้น Emerging Market รวมถึงตลาดหุ้นอื่นในเอเชียอย่างต่อเนื่อง  หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวกับนโยบายภาครัฐคาดว่าจะกลับมาได้รับความน่าสนใจอีก จากการเดินหน้าการก่อสร้างของโครงการภาครัฐที่ได้รับสัมปทานไปแล้ว รับเหมาก่อสร้างเด่นที่ CK กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม โดดเด่นที่ AMATA และ WHA หุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก ค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ อาหารและเครื่องดื่ม ยังคงสดใส ส่วนหุ้น Global Play เรายังให้ IVL เป็นหุ้นเด่น ค่าระวางเรือเทกองพลิกกลับมาเป็นบวกแล้ว คาดสามารถเก็งกำไร PSL และ TTA ได้

หุ้นเด่นวันนี้: TVO(ราคาปิด 29.75 บาท; NR; AWS TP 32 บาท based on consensus EPS)

  • แม้ TVO ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 เท่ากับ 343 ลดลง 68% YoY แต่ดีขึ้น 65%QoQ โดยกำไรสุทธิต่ำสุดผ่านไปแล้วในช่วงไตรมาส 2/60 และกำลังฟื้นตัวขึ้น โดยได้รับปัจจัยหนุนจากดีมานด์กากถั่วเหลืองในประเทศที่ดีขึ้น ตามปริมาณการเลี้ยงไก่ที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการส่งออกเนื้อไก่ โดยปัจจุบันการเลี้ยงไก่อยู่ที่ประมาณ 31 ล้านตัวต่อสัปดาห์ เป็นปริมาณที่เพิ่มมากขึ้นจากปีก่อน โดยการแข่งขันจากกากถั่วเหลืองนำเข้าเริ่มบรรเทาลง จากราคาที่ห่างกันไม่มากนักกับราคาจากโรงสกัดถั่วเหลืองในประเทศ โดยผลประกอบการในปี 2560 ทั้งปี บริษัทมีระดับ GPM ที่ 9.5% ซึ่งลดจากปี 2559 ที่ 16% ทั้งนี้แนวโน้มการฟื้นตัวที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/60 เป็นต้นมา เราคาดการณ์ว่า GPM ในปี 2561 ของ TVO จะเท่ากับ 11%Consensus คาดการณ์ กำไรต่อหุ้นในปี 2560-2561 เckท่ากับ 1.80 บาท และ 2.00 บาท ตามลำดับ ซึ่ง PER เฉลี่ยของกลุ่มอาหารปี 2561 เรากำหนดให้ 16 เท่า เราจึงประมาณการราคาเหมาะสมของ TVO ไว้ที่ 32 บาท
  • Price Pattern ของ TVO แข็งแกร่งทั้งในระยะสั้นและระยะกลางเกิดทั้ง Daily & Weekly Buy Signal ครั้งใหม่ เพียงแต่ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาลง (Downtrend) จากการเกิด Monthly Sell Signal มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 30 บาท และมีเป้าหมายเบื้องต้นอยู่ที่ 50 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ TVO มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 26 บาท (Resistance: 30.25, 30.75, 31.75; Support: 29.25, 28.75, 27.75)

ปัจจัยในประเทศ:

  • สรรพากรวางแผนเก็บภาษีเงินได้จากผู้ลงทุนพันธบัตรผ่านกองทุนรวม : การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยมีการคาดการณ์ว่าจะลดลงหลายพันล้านบาทหลังจากที่กระทรวงการคลังได้วางแผนที่จะจัดเก็บภาษีหัก ณ ที่จ่ายไว้ 15% ของกองทุนตราสารหนี้ในปีหน้า (Bangkok Post)
  • หุ้นพลังงาน:กองทุน SWF ของนอร์เวย์ซึ่งเป็นกองทุน SWF ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เสนอที่จะขายหุ้นในธุรกิจน้ำมันและก๊าซกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 6.4% ของมูลค่ากองทุนในหุ้นของ SWF อันเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจของนอร์เวย์นั้นพึ่งพาการผลิตน้ำมันและก๊าซกว่า 20% ของ GDP จึงอยากจะลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับด้านนี้ลง ทั้งนี้ทางรัฐมนตรีคลังของนอร์เวย์ได้กล่าวว่าจะศึกษาแล้วจะตัดสินคำเสนอนี้ภายในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2561 ด้านบริษัทน้ำมันในไทยนั้นก็มีส่วนที่ทางกองทุนถืออยู่ด้วยกว่า 207 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยบริษัทกองทุนลงทุนมากที่สุดคือ ปตท. อยู่ที่ 79 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือถือหุ้น 0.27% ของบริษัท(Bloomberg) ความเห็น: หุ้นไทยที่กองทุนดังกล่าวคือ BCP, ESSO, PTTEP, PTTGC, PTT, SPRC, TOP โดยถือ BCP คิดเป็น 2% ของทุนจดทะเบียน BCP ส่วนหุ้นอื่นถือต่ำกว่า 1% ของทุนจดทะเบียนของหุ้นเหล่านั้น

 

ตลาดต่างประเทศ:

  • ตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลักดันร่างกฏหมายปฏิรูปภาษีของพรรครีพับลิกันว่า จะสามารถผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาได้หรือไม่ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้มีมติผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
  • ตลาดหุ้นยุโรป:ปิดลบเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) โดยตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2 หลังบริษัทจดทะเบียนเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง อีกทั้งยังได้รับแรงกดดันจากการที่โบรกเกอร์ประกาศปรับลดน้ำหนักหุ้นของหลายบริษัท ประกอบกับการที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์

 

สินค้าโภคภัณฑ์:

  • ค่าเงินบาท:เงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 33.00 แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 30 เดือนที่ 32.77 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันอย่างต่อเนื่องจากความไม่แน่นอนของแผนปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการหาข้อสรุปในสภาคองเกรส
  • ราคาน้ำมันดิบ: ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นกลุ่มโอเปกขยายเวลาปรับลดการผลิตน้ำมัน และการหยุดดำเนินการของท่อขนส่งน้ำมัน Keystone จากแหล่งน้ำมันดิบในแคนาดามายังสหรัฐฯ กำลังการขนส่ง 590,000 บาร์เรลต่อวัน ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันสัปดาห์นี้ เวสต์เท็กซัส 53-58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ 60-65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
  • ค่าระวางเรือเทกอง ปิดบวก 10 จุด เป็น 1,371 จุด เพิ่มขึ้น 0.73% เริ่มมีทิศทางกลับมาเป็นบวก หนุนการเก็งกำไรในหุ้น TTA และ PSL