สลด! อดีตตร.วัย 82 โรครุมเร้าเขียนจม.ลายิงตัวตาย

สลด! อดีตตร.วัย 82 โรครุมเร้าเขียนจม.ลายิงตัวตาย

สลด! อดีตตำรวจออสเตรเลียวัย 82 โรครุมเร้ายิงตัวตาย เขียนจม.ลาตาย “ไม่อยากเป็นภาระให้ต้องดูแล”

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน ร.ต.ท.พีรดนย์ คงทัพ รอง สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีชาวต่างชาติยิงตัวตายในห้องพักเลขที่ 19/194 ชั้น 6 วงแหวนคอมเพล็กซ์คอนโดมิเนียม ถนนเอกชัย ซอย 88 แขวงและเขตบางบอน กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ สุขยิ่ง สว.สส.สน.บางขุนเทียน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

จากการตรวจสอบในโซนห้องนอนของห้องพักดังกล่าว พบร่าง นายบัคคอน โทมัส เอ็ดวาร์ด อายุ 82 ปี สัญชาติออสเตรเลีย สภาพศพนอนอยู่บนเตียงพับ สวมเสื้อกล้ามสีขาว นุ่งกางเกงขาสั้นสีเทา มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน ขนาด .38 ที่คอหอย จำนวน 1 นัด คราบเขม่าติดฝังแน่นอยู่ปากบาดแผล โดยที่มือข้างซ้ายของผู้ตายยังกำอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 เอาไว้แน่น บนโต๊ะไม่ไกลกันพบจดหมายลาตายเขียนด้วยภาษาอังกฤษลายมือผู้ตายในทำนอง ว่า ไม่อยากอยู่เป็นภาระให้ใครต้องลำบากมาดูแล ทิ้งเอาไว้ 1 ฉบับ จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน น.ส.ธนภรณ์ โลมรัตน์ อายุ 54 ปี เจ้าของห้อง ซึ่งเป็นภรรยาคนปัจจุบัน ของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นอดีตตำรวจประเทศออสเตรเลีย พอเกษียณก็เข้ามาพำนักในเมืองไทยโดยถือวีซ่าเข้ามาใช้ชีวิตบั้นปลายในฐานะผู้สูงอายุ ได้ประมาณ 20 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้ นายบัคคอน เคยมีภรรยาชาวไทยและจดทะเบียนสมรสกันมาก่อน แต่ก็ได้เลิกรากันก่อนมาพักอยู่กับตน ปัจจุบันนายบัคคอน มีโรคประจำตัวหลายอย่างรุมเร้าต้องเข้ารับการรักษากับแพทย์ ที่ รพ.บางปะกอก 8 อย่างต่อเนื่อง โดยมีตนคอยดูแลอยู่ด้วยตลอด

“กระทั่งเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา เหมือนว่า นายบัคคอน จะมีอาการเบาหวานขึ้นตา ทำให้ตาพร่ามัว และไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนด้วยตนเองได้ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตลอด จึงบ่นให้ตนฟังว่า ไม่อยากให้ตนต้องลำบาก มาดูแลเช็ดปัสสาวะ เช็ดอุจจาระ แต่ตนก็ไม่เอะใจอะไร พอวันนี้ช่วงบ่ายมีเพื่อนบ้านมาหาตน ตนจึงออกไปนั่งคุยกับเพื่อนบ้านที่ห้องโถง สักพักได้ยินเสียงปืนดังมาจากในห้องนอนเมื่อรีบเข้าไปดูพบว่า นายบัคคอน ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งอาวุธปืนกระบอกนี้ตนเคยเห็นผู้ตายนำออกมาเช็ดทำความสะอาดนานๆ ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ถามว่าเอามาจากไหน เพราะเข้าใจว่าผู้ตายเป็นอดีตตำรวจก็น่าจะมีเอาไว้ครอบครองอยู่แล้ว” น.ส.ธนภรณ์ กล่าว

ด้าน พ.ต.ต.จารุกิตติ์พัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด หลังจากนี้จะมอบศพให้แพทย์นิติเวชนำไปผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนประสานสถานทูตออสเตรเลียให้ช่วยติดตามญาติผู้ตายเดินทางเข้ามาร่วมรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลด้วย ในส่วนของอาวุธปืนนั้นก็จะต้องให้กองพิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบเช่นกัน ว่า เป็นของผู้ตายทำเรื่องนำเข้าจากออสเตรเลียมาเก็บไว้หรือไม่ หรือเป็นของญาติพี่น้อง คนรู้จักชาวไทยที่ทำเรื่องซื้อเอาไว้ให้ เนื่องจากผู้ตายอยู่เมืองไทยมานาน และเคยมีภรรยาชาวไทยที่จดทะเบียนสมรสกันมาก่อน