'โฆษกศาล' แจงศาลทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้วคดี 'ครูจอมทรัพย์'

'โฆษกศาล' แจงศาลทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้วคดี 'ครูจอมทรัพย์'

"โฆษกศาล" ชี้ "ครูจอมทรัพย์" หมดสิทธิ์รับเยียวยา หลังศาลฎีกาชี้ขาดยกคำร้อง ขณะที่ขอรื้อคดีทำได้ครั้งเดียว

เมื่นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลจังหวัดนครพนมได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่นางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตข้าราชการครู ยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีใหม่ ซึ่งศาลฎีกาพิพากษายกคำร้องของนางจอมทรัพย์ ว่า เมื่อศาลฎีกาตัดสินให้ยกคำร้องแล้ว เท่ากับว่าผลของคดีที่เคยตัดสินไว้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลเป็นอย่างอื่น คือนางจอมทรัพย์ได้กระทำความผิดและศาลลงโทษจำคุกไว้เป็นเวลา 3 ปี 2 เดือน แต่เนื่องจากนางจอมทรัพย์เคยรับโทษและภายหลังได้รับการอภัยโทษแล้ว จึงพ้นโทษนั้นแล้ว โดยคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ออกมาวันนี้ได้เห็นว่า การขอรื้อฟื้นไม่มีพยานหลักฐานใหม่ที่ชัดแจ้งและสำคัญต่อคดีที่จะแสดงว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นศาลจึงยกคำร้อง และเนื่องจากว่าคำพิพากษาการขอรื้อฟื้นคดีนี้เป็นคำสั่งของศาลฎีกา ดังนั้นคู่ความจึงไม่อาจดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ ต่อไปได้ โดยคดีถือเป็นที่สุดแล้ว เพราะการยื่นคำร้องขอรื้อฟื้นคดีสามารถทำได้ครั้งเดียว เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษายกคำร้องแล้ว ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะรับเงินค่าทดแทนหรือเงินเยียวยาได้ เมื่อถามว่าในคำพิพากษาที่ยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีดังกล่าวได้กล่าวถึงการนำพยานมารับผิดใช่หรือไม่

นายสุริยัณห์ กล่าวว่า ในคำวินิจฉัยของศาลฎีกา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับไปตรวจสอบและดำเนินการตามกรอบกฎหมายต่อไป ในส่วนของศาลเองก็ทำหน้าที่ของตนเองอย่างสมบูรณ์แบบแล้วทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ภาค 4 และศาลฎีกา เมื่อถามว่า แสดงว่าศาลเชื่อว่ามีขบวนการรับจ้างรับผิดแทนหรือไม่ นายสุริยัณห์ กล่าวเพียงว่า ก็คงเป็นไปตามคำวินิจฉัยและเหตุผลคำพิพากษาของศาลฎีกา