ขายดีแตกซับแบรนด์รุกขายมอ’ไซค์ออนไลน์

นายทิวา ยอร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและเฮดโค้ด ขายดี (Kaidee) กล่าวว่า เปิดตัวซับแบรนด์ใหม่ “มอไซค์ขายดี (MocyKaidee)” เพื่อรุกตลาดการจำหน่ายมอเตอร์ไซค์บนออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ

ทั้งนี้ เห็นโอกาสที่ตลาดมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดให้บริการเว็บไซต์ โดยติดอันดับท็อป 5 มาโดยตลอด ทั้งมอเตอร์ไซค์เป็นตลาดยานพาหนะที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ภายในครึ่งปีแรกมีรถใหม่จดทะเบียนกว่า 1.2 ล้านคัน ขณะที่รถยนต์เพียง 4 แสนคัน

โดยวางตำแหน่งเป็น มาร์เก็ตเพลสและคอมมูนิตี้สำหรับการซื้อ-ขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่ละวันมีรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาประกาศขายกว่า 2.5 หมื่นคัน มีการใช้งานมากกว่า 1.2 แสนครั้งต่อวัน หรือกว่า 3.4 ล้านครั้งต่อเดือน นอกจากนั้นมีอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และอุปกรณ์ขับขี่ประกาศขายมากกว่า 3.6 หมื่นรายการทุกวัน ต่อเดือนทำยอดขายได้มากกว่า 9,500 คัน มูลค่ากว่า 395 ล้านบาท

“บนออนไลน์โอกาสไม่ได้มีแค่สินค้ากลุ่มแฟชั่น เครื่องสำอาง และอิเล็กทรอนิกส์ จะประสบความสำเร็จได้ต้องทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและใช้งานได้ง่ายมากที่สุด”

สถิติระบุด้วยว่า มอเตอร์ไซค์เป็นหมวดสินค้ายอดนิยมอันดับ 2 ที่มีการโพสต์ขายมากที่สุดรองลงมาจากรถยนต์ โดยคำค้นหาสูงสุด 5 อันดับแรก ประกอบด้วย พีซีเอ็กซ์, เอ็มเอสเอ็กซ์, เวฟ125, เอสอาร์ 400, และโซนิค ตามลำดับ

ระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ธ.ค.) มีผู้ใช้เข้ามาลงลงประกาศ 2.97 แสนโพสต์ จำหน่ายไปแล้วมากกว่า 9 หมื่นคัน รวมมูลค่ากว่า 3.5 พันล้านบาท เฉลี่ย 411 คันต่อวัน หรือ 3.5 นาทีต่อคัน แต่ละคันขายได้ภายใน 15 วัน ปีนี้คันที่แพงที่สุดที่ขายไปได้ราคา 1.58 ล้านบาท แบรนด์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ขณะที่โดยรวมราคาเฉลี่ยต่อคันอยู่ที่ 4 หมื่นบาท

อย่างไรก็ดี จากทั้งหมด 85% เป็นสินค้ามือสอง อีก 15% มือหนึ่ง จากกรุงเทพและปริมณฑล 25% ต่างจังหวัด 75% ด้านผู้ขาย 45% เป็นดีลเลอร์ 55% บุคคลทั่วไป

สำหรับแนวทางการทำงาน ขณะนี้ได้แยกแบรนด์ชัดเจนแล้ว เฟสต่อไปจะแยกรุ่น และขนาดซีซี และจะค่อยๆ พัฒนาเรื่องการตรวจสอบความน่าเชื่อถือให้ดีมากขึ้น ด้านเทคโนโลยีที่นำมาใช้ประมวลผล คือ แมชีนเลิร์นนิ่ง ดังนั้นมั่นใจได้ว่าจะได้ข้อมูลที่ตรง สามารถให้บริการได้เร็ว การขยับตัวครั้งนี้เชื่อว่าจะได้รับผลตอบรับที่ดีกลับมาแน่นอน

ปัจจุบัน จากทั้งหมด 264 หมวดหมู่ สินค้าขายดีสุดในเว็บไซต์ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ อสังหาริมทรัพย์ โมบายและแทบเล็ต และพระเครื่อง จากปี 2559 รถยนต์ โมบายและแทบเล็ต มอเตอร์ไซค์ พระเครื่อง อสังหาริมทรัพย์ ตามลำดับ

สำหรับโมเดลการทำรายได้บริษัทมาจากค่าลงประกาศใน 2 หมวด คืออสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ค่าโปรโมทเลื่อนประกาศที่ราคาเริ่มต้น 5-40 บาท และโฆษณาต่างๆ สัดส่วนรายได้ 70% มาจากบริการเสริม 30% โฆษณา จากปี 2559 ที่เริ่มมีรายได้ ตั้งเป้าไว้ว่าในปี 2562 จะเริ่มมีกำไร

โดยภาพรวมการใช้งานสัดส่วน 80% มาจากโทรศัพท์มือถือ พีซีเหลือเพียง 20% ขณะที่การลงประกาศ 70% มาจากมือถือ หมวดที่ยังใช้พีซีมากที่สุด สัดส่วน 50% คืออสังหาริมทรัพย์

เขาแนะว่า การจูงใจลูกค้าปัจจัยที่ทำให้เกิดการตัดสินใจมากที่สุดคือราคาที่เหมาะสมกับสถาพตลาด ไม่แพงเกินไป รูปภาพต้องชัด บอกถึงสเปค ตำหนิ สภาพสินค้าจริงๆ นับเป็นการบริหารจัดการความคาดหวังที่ยิ่งชัดเจนยิ่งเกิดการตัดสินใจเร็ว

พร้อมระบุ การแตกหมวดหมู่ย่อยพิจารณาตามความนิยม เบื้องต้นปี 2561 เตรียมเพิ่มอสังหาริมทรัพย์อีกหนึ่งหมวดด้วย