มรกตของทะเลอันดามัน
เมื่อพูดถึงประเทศไทย คนต่างชาติมักนึกถึง หาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีคราม แสงแดดและไออุ่น ที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกเลือกที่จะมาเอนหลักพักกายบนทรายละเอียดให้ฟองคลื่นกระทบลำตัว
ท่ามกลางไอแดดของทะเลอันดามัน เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง จนหลายคนเลือกที่จะหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกรุง สู่การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) ที่จังหวัดกระบี่ ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำ, พายเรือคายัค, ปีนเขา, เล่นน้ำตก หรือแม้กระทั่งเรียนรู้และศึกษาวิถีชีวิตของคนในชุนชน ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ ท่ามกลางธรรมชาติของขุนเขา และท้องทะเลที่งดงามหาที่ใดเหมือน
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้สรุปรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่จังหวัดกระบี่ภายในปี 2559 ว่ามีมากถึง 4.3 ล้านคน โดยอัตราส่วนชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 48.39% มากกว่าชาวไทยถึง 5 เท่า อีกทั้งมีการใช้จ่ายสูงขึ้น สร้างรายได้หมุนเวียนกว่า 69 ล้านบาท ซึ่งกระบี่เป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีทัศนคติทางบวกมากที่สุดถึง 96% อ้างอิงจากผลวิเคราะห์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในไตรมาสที่ 3/2560 ของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) อีกทั้งยังมีการเพิ่มยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมและผลักดันให้กระบี่กลายเป็นเมืองศิลปะ ด้วยการนำต้นทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและสังคม
มรกตแห่งอันดามันนี้จะกลายเป็นสังเวียนแห่งศิลปะที่ศิลปินจากทั่วทุกมุมโลกจะเดินทางมาร่วมแสดงผลงานผ่านมหกรรมการแสดงศิลปกรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งแรกในเมืองไทย “Thailand Biennale Krabi 2018” ภายใต้แนวคิด Edge of Wonderland ซึ่งจะเริ่มจัดแสดงระหว่างวันที่ 2 พฤศจิกายน 2561 - 28 กุมภาพันธ์ 2562 ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม และอาจจะเป็นเวทีที่พลิกโฉมกระบี่สู่การรับรู้ในแง่มุมใหม่จากที่เคยเป็น