สาวใหญ่นำกงเต๊ก-เอกสารถูกโกงที่ดิน เผาฟ้องศาลหลักเมือง

สาวใหญ่นำกงเต๊ก-เอกสารถูกโกงที่ดิน เผาฟ้องศาลหลักเมือง

ช่วยด้วย! ชาวบ้านน้ำพองไร้ที่พึ่ง นำกงเต๊ก-เอกสารถูกโกงที่ดิน 26 ปี ไปเผาฟ้องศาลหลักเมือง เพื่อขอความเป็นธรรม หลังร้องขอความช่วยเหลือทุกหน่วยงานแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ไร้หน่วยงานรัฐเหลียวแล

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 15 พ.ย. 60 นางศศิธร ไชยจันทร์ดี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 7 ต.กุดน้ำใส อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกรณีปัญหาการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบ ได้เดินทางมาติดป้ายร้องเรียนการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมทั้งนำเอกสารการต่อสู้ที่ดำเนินการนานถึง 26 ปี มาเผาเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อเจ้าพ่อหลักเมือง หลังจากที่ผ่านมาได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานขอเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกินคืน ทั้งจากสำนักงานที่ดินขอนแก่น สาขาน้ำพอง ที่ว่าการอำเภอน้ำพอง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และศูนย์รับเรื่องร้องเรียน การประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ของรัฐ มณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร แต่เรื่องเงียบ จึงตัดสินใจนำเอกสารที่ได้ดำเนินการทั้งหมดมาเผา เพื่อขอความช่วยเหลือกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

นางศศิธร กล่าวว่า ที่ดินที่มีปัญหาชาวบ้านเข้ามาทำกินก่อนปี 2533 แล้ว กรณีปัญหามีมานานกว่า 26 ปี เกิดขึ้นกับที่ดิน 2 แปลง ที่มีปัญหาคล้ายกัน คือการออกโฉนดที่ดินปลอม เพื่อนำไปกู้ยืมเงินกับธนาคาร เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยปู่ ในพื้นที่ที่เป็นปัญหานั้นมีพื้นที่ทั้งหมด 66 ไร่ ซึ่งใน 25 ไร่ มีเอกสาร นส. 3 ส่วนที่เหลือ 41 ไร่ เป็น สค. 1 จากนั้นปู่จึงซื้อที่ดิน 25 ไร่ ที่มีเอกสาร นส. 3 ต่อจากคนรู้จัก แต่ในสมัยนั้นไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กัน กระทั่งรู้ข่าวว่าที่ดินกำลังจะมีนายทุนเข้ามาสวมสิทธิ์ ในปี 2533 จึงได้ดำเนินการฟ้องศาลขอสิทธิ์ในที่ดินจนชนะได้ครอบครองปรปักษ์ ต่อมาปู่ได้นำคำพิพากษาของศาลแนบเป็นหลักฐาน ขอออกเอกสารสิทธิ์ในชื่อของตัวเอง แต่สำนักงานที่ดินขอนแก่น สาขาน้ำพอง แจ้งว่า ที่ดินแปลงนี้มีเจ้าของและมีการซื้อขายไปแล้ว

“ปู่นำคำสั่งศาลไปขอโอนที่ดิน 2 ครั้ง ในปี 2534 และ 2540 โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ที่ดิน 25 ไร่ นั้นมีการซื้อขายไปแล้ว ระหว่างนี้ชาวบ้านได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อร้องขอความเป็นธรรม จนมีข้อมูลว่าโฉนดที่ดินที่ออกโดยสำนักงานที่ดินน้ำพองนั้น น่าจะเป็นเอกสารปลอม เพราะเอกสารฉบับจริงที่ดินเป็น นส. 3 จำนวน 25 ไร่ และเอกสารยังอยู่กับชาวบ้านไม่ได้สูญหาย ที่สำคัญเมื่อตรวจสอบเอกสารปลอม พบว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินไม่ได้ออกโฉนดที่ดิน 25 ไร่ แต่ออกเป็นโฉนด 66 ไร่ ซึ่งรวมที่ดินของชาวบ้านที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์เข้ามาด้วย ทำให้เชื่อว่ามีขบวนการฟอกเอกสาร นำที่ดินชาวบ้านที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ไปแปลงเป็น นส.3 ก แปลงเป็นโฉนดที่ดิน แล้วอ้างว่ามีการซื้อขายนำไปกู้เงินธนาคาร ซึ่งต้องต่อสู้กันมาตลอด ร้องเรียนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฟ้องศาล กระทั่งศาลฎีกาตัดสินว่า โฉนดที่สำนักงานที่ดินออกมานั้นเป็นการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ หรือนส.3 ฉบับใหม่แทนฉบับเดิมโดยมิชอบ จำเลยที่ 1 รับโอนที่ดินพิพาทโดยไม่สุจริต พร้อมให้เพิกถอนการจำนองทุกอย่างที่เคยดำเนินการ ซึ่งเมื่อศาลชี้ชัดและตัดสินจนถึงที่สุดแล้ว ชาวบ้านก็นำคำตัดสินนี้ไปยื่นขอเอกสารสิทธิ์ต่อสำนักงานที่ดินขอนแก่น สาขาน้ำพอง แต่ทางที่ดินยังไม่มีความชัดเจน ในการดำเนินการคืนสิทธิ์ให้ชาวบ้าน” นางศศิธร กล่าว