'จีพีเอสซี' เดินเครื่องโรงไฟฟ้าSPP ตามเป้า

'จีพีเอสซี' เดินเครื่องโรงไฟฟ้าSPP ตามเป้า

โกลบอล เพาเวอร์ ซินเอนร์ยี่ เดินเครื่อง "โรงไฟฟ้า SPP" ไออาร์พีซีคลีนพาวเวอร์ ครบ 240 เมกกะวัตต์แล้วตามกำหนด

GPSC  เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ โรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ เฟส 2  เต็มกำลังการผลิต  จำนวน 240 เมกกะวัตต์ ไอน้ำ 180-300 ตันต่อชั่วโมง   เข้าระบบโครงข่ายไฟฟ้าของ กฟผ. จำนวน 180 เมกะวัตต์   ส่งผลรายได้บริษัทฯ เติบโตต่อเนื่อง 

ดร.เติมชัย  บุนนาค  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่   บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSCแกนนำในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและสาธารณูปโภคกลุ่ม ปตท. เปิดเผยว่า ในวันนี้ (15 พ.ย.60) โรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีนพาวเวอร์ เฟส 2 (IRPC –CP 2) จังหวัดระยอง ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 51%  ได้เริ่มเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ และมีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว  ซึ่งจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง และจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 4 ของปี 2560 เป็นต้นไป  

ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบพลังความร้อนร่วม (Cogeneration)  ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้า 240 เมกกะวัตต์ และผลิตไอน้ำได้ 180 – 300 ตันต่อชั่วโมง  โดยเป็นสัญญาซื้อ-ขายไฟฟ้า (PPA) ประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จำนวน 180 เมกะวัตต์  อายุสัญญา 25 ปี   ทำให้บริษัทฯ สามารถเดินเครื่องในเชิงพาณิชย์ (COD) ได้อย่างเป็นทางการในวันนี้ ตั้งแต่เวลา12.00 น. เป็นต้นไป  ส่วนไฟฟ้าและไอน้ำที่เหลือจะขายให้กับบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) จำนวน 60 เมกะวัตต์ และไอน้ำจำนวน 180-300 ตันต่อชั่วโมง

“การได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าประเภท SPP กับ กฟผ.นับว่าเป็นความก้าวหน้าและความสำเร็จในการดำเนินโครงการของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามแผนงานได้ทุกประการ  สามารถเสริมสร้างความมั่นคงให้กับระบบพลังงานของประเทศ   และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของบุคลากรบริษัทฯ ที่มีความเข้มแข็ง  และยึดมั่นตามสัญญาที่ให้ไว้กับลูกค้าที่จะจ่ายไฟฟ้าให้ได้ตามที่ตกลงไว้“ ดร. เติมชัย กล่าว

ทั้งนี้การ COD  โรงไฟฟ้าดังกล่าวส่งผลให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ดำเนินการผลิตแล้วทั้งสิ้น 1,509  เมกกะวัตต์ ตามสัดส่วนการถือหุ้น และในช่วงเวลาที่เหลือของปี   จะมีโรงไฟฟ้า อิจิโนเซกิ ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 20.8 เมกกะวัตต์  จะ COD  อีกหนึ่งแห่ง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตเพิ่มเป็น 1,530 เมกกะวัตต์ ส่งผลให้ผลการดำนินงานของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง