AH - ซื้อ

AH - ซื้อ

ผลประกอบการไตรมาส 3/60 เป็นไปตามคาด

ตามคาด

AH รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 ที่ 243 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% YoYแต่ลดลง 23% QoQ กำไรเก้าเดือนแรกของปี 2560 คิดเป็น 79% ของ
ประมาณการปี 2560 ของเรา

ยอดขายอยู่ที่ 4.05 พันล้านบาท สูงขึ้น 15% YoY และ 12% QoQ (ซึ่งตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับที่เราคาด) จากยอดขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและในประเทศจีน กอปรกับยอดขายรถยนต์จากดีลเลอในประเทศมาเลย์เซียปรับตัวดีขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทรับรู้รายได้จากดอกเบี้ยอีก 86 ล้านบาทจาก SGAH

อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5% ในไตรมาส 3/60 เทียบกับ 5.2% ในไตรมาส 3/59 และ 6.3% ในไตรมาส 2/60 เนื่องจากรายได้จากธุรกิจดีลเลอที่เพิ่มขึ้น(ธุรกิจดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่า)ซึ่งทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลง ในส่วนของการผลิตรถยนต์ในอุตสาหกรรมไตรมาส 3/60 มีการผลิตรถยนต์ทั้งหมด 5.27 แสนคัน เพิ่มขึ้น 9% YoY และ 13% QoQ

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นจาก 5.4%ในไตรมาส 3/59 มาอยู่ที่ 6.2% ในไตรมาส 3/60 เนื่องจากการรับรู้การขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในการเข้าซื้อกิจการ SGAH

แนวโน้ม

เราคาดกำไรไตรมาส 4/60 จะสูงขึ้นเล็กน้อย YoY หนุนโดยการขายชิ้นส่วนยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นจากอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เริ่มฟื้นตัว กำไรที่เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งกำไรการดำเนินกิจการในประเทศมาเลย์เซีย (ฮอนด้าดีลเลอร์) และประเทศจีน รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง (การลดต้นทุน) ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทยังจะได้รับรายได้จากดอกเบี้ยของ SGAH ประมาณ 80 ล้านบาท ในไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เรายังคงราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ที่ 40.50 อ้างอิงจากค่า PER 12เท่า

คำแนะนำ

เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AH เนื่องจาก 1) เนื่องจาการผลิตรถยนต์จะฟื้นตัวในไตรมาส 4/60 เป็นต้นไป, 2) มีความน่าจะเป็นที่อัตรากำไรขั้นต้นจะขยายตัวมากกว่าที่เราคาดในไตรมาส 4/60 , 3) ยอดขายรถยนต์ในประเทศจีนและมาเลเซียยังแข็งแกร่ง (ซึ่งจะคิดเป็น 30% ของรายได้รวมทั้งหมด,และ 4) มีความน่าจะเป็นที่จะมีออร์เดอร์จากลูกค้าใหม่ในไตรมาส 4/60(จากพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ คือบริษัท Sakthi Global Auto Holding(SGAH) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิ้นส่วนรายใหญ่ของประเทศอินเดีย