MORNING CALL ACTION NOTES (15 พ.ย.60)

ภาวะตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องโดย กลุ่ม ENERG, PROP และ COMM หลังราคาน้ำมันฟื้นตัว / หุ้นค้าปลีกรายงานผลกำไรงวด 3Q60 ออกมาเติบโตโดดเด่น โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,702.63 จุด (+15.58 จุด) Volume 6.52 หมื่นลบ. โดย Foreign Net -1,241.34 ลบ.  TFEX Net -6,907 สัญญา ตราสารหนี้ -76 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ญี่ปุ่นเผย GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว 1.4% เทียบรายปี

+สหรัฐ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค.

+Ifo เผยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจโลกปรับตัวขึ้น 3.9 จุด แตะที่ 17.1 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2554

-ดาวโจนส์ปรับตัวลง เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง และความกังวลเกี่ยวกับความล่าช้าในการบังคับใช้มาตรการปฏิรูปภาษี

-น้ำมันดิบปรับตัวลงหลัง  IEA ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้ และปีหน้า นอกจากนี้ มีรายงานว่าการผลิตน้ำมันในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น

-ยูโรสแตทเผยเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวสู่ 0.6% ในไตรมาส 3

+/- Fund Flow ยังผันผวนต่างชาติขายติดต่อกันเป็นวันที่ 5 รวม 7.3 พันล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าสู่ 33.04 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว  1.13 แสนสัญญา)

**จับตาความคืบหน้าร่างกฎหมายปฏิรูปภาษีของสหรัฐ หลังมีข่าวว่า สมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภาเสนอให้มีการชะลอการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลจาก 35% สู่ระดับ 20% ออกไปอีก 1 ปี จนถึงปี 2562

ภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศ ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนและยูโรโซน และ fund flow ต่างชาติผันผวน โดยมีปัจจัยหนุนจากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวในช่วงปลายปีรวมทั้งทิศทางเศรษฐกิจโลกที่ดีต่อเนื่องในปีหน้าจะฟื้นตัว คาดวันนี้ SET จะผันผวนในกรอบ 1,690-1,709 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- MSCI Thailand เพิ่มน้ำหนักหุ้น IVL TOP SCB PTTGC KBANK

- MSCI Global Small Cap เพิ่มหุ้น BEC GGC ORI VNT WHAUP

- MSCI Global Small Cap ลดหุ้น AIRA GPSC NYT SCN STPI THRE

- หุ้นที่ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ANAN COMAN XO MALEE TPCH TWPC JUBILE

- ประเด็นบวกกลุ่มโรงไฟฟ้า กกพ.คาดรับซื้อไฟฟ้าจากขยะ 78 MWในสัปดาห์นี้ และรับซื้อ VSPP Semi-firm 269 MW ต้นปี 61

- กลุ่มรับเหมาฯ การจัดตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ และการร่วมทุน PPP

หุ้นแนะนำพิเศษ

CHEWA (ราคาปิด 1.38 บาท ซื้อเก็งกำไร  ราคาเหมาะสม 1.62 บาท)

• ผลการดำเนินงานงวด 9M60 พลิกมีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาทจากขาดทุน 9 ล้านบาทในช่วง 6M60 โดยลดลง 66%YoY ส่วน 4Q60 จะโอนโครงการ ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ บางโพ มูลค่ารวม 1,040 ล้านบาท จองแล้ว 53% ต่อจากที่เพิ่งเริ่มโอนเดือนก.ย. และโครงการชีวาทัย เรสซิเดนซ์ อโศก มูลค่ารวม 1,700 ล้านบาท จองแล้ว 61% เริ่มโอนในเดือนต.ค. ฝ่ายวิจัยคาดกำไร 4Q60 ราว 61 ล้านบาทพลิกมีกำไรจากที่ขาดทุน 9 ล้านบาทในช่วง 4Q59 และเติบโต 83%QoQ
• ปี 60 คาดรายได้รวมราว 9 พันล้านบาทใกล้เคียงกับเป้าหมายของผู้บริหารที่ระดับ 2 พันล้านบาท เติบโต 64%YoY และคาดกำไรปี 60 อยู่ที่ราว 86 ล้านบาทเติบโต 37%YoY ปี 61 คาดกำไรราว 121 ล้านบาท เติบโต 41% CAGR ปี 60-61 อยู่ที่ราว 39%
• ฝ่ายวิจัยประเมินราคาเหมาะสมปี 61 อิง Prospect PER ที่ระดับ 10 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยใน SET ที่อยู่ที่ระดับ 18 เท่า อย่างไรก็ดี D/E ปลาย 3Q60 ค่อนข้างสูงที่ระดับ 3.1 เท่าเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.25 เท่า ณ ปลายปี 59  จึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร

• GL แจ้ง Q3/60 ขาดทุนสุทธิ 2,606 ล้านบาท พลิกจากกำไร 260 ล้านบาทใน Q3/59 ส่งผลให้ 9M60 พลิกขาดทุน 1,941 ล้านบาท จากกำไร 739 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีคชจ.จากการประมาณการค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับ 1,57 ล้านบาท
• PACE แจ้ง 3Q60 ขาดทุน 962 ลบ. งวด 9M60 พลิกมีกำไร 3,773 ลบ. จากขาดทุน 1,372 ลบ.ใน 9M59 ทั้งนี้เนื่องจากผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นต่องบกาไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม และแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบแสดงฐานะทางการเงินรวม จากการถูกจำกัดขอบเขตโดยสถานการณ์เรื่องการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว

หุ้นมีข่าว   

·        JUBILE รายงานกำไร 3Q60 ที่ 44 ล้านบาทเติบโต 19%YoY แต่ทรงตัว QoQ โดยเรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่ปกติรายได้และกำไรจะอ่อนตัวลง เนื่องจากฐานที่สูงในไตรมาส 2 ที่มีการจัด Midyear sale ทั้งนี้ เรายังมีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 4 ที่จะเข้าสู่ช่วง High season อีกทั้งคาดว่าจะมีการเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 สาขารวมเป็น 128 สาขาเข้ามาหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม เราจึงคงคำแนะนำ “ซื้อ”  ที่ราคาเหมาะสม 26.75 บาท

·        TRUE (ราคาปิด 5.65 บาท Bloomberg Consensus 6.58 บาท) ยังคงขาดทุนสุทธิในงวด 3Q60 ที่ 681 ล้านบาท แต่ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้ากว่า 3 เท่า หรือจากกว่า 2.5 พันล้านบาท หลักๆจากรายได้จากการให้บริการไม่รวม IC เพิ่มขึ้น 8.7%YoY ตามการให้บริการ Non-voice เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ต้นทุนการให้บริการรวมลดลง 2.3%YoY จากค่าใช่จ่ายในการกำกับดูแล 20.4%YoY หลังการปรับลด USO ลงจาก 3.75% ของรายได้เป็น 2.5% ของรายได้ หนุนให้ EBITDA ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 8.95 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 39%YoY

·        ในงวด 4Q60 นอกเหนือจากการดำเนินงานปกติ TRUE ยังคาดหวังกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินเข้า DIF งวดแรกราว 1 หมื่นล้านบาท และงวดที่ 2 ในช่วงกลางถึงปลายปี 61 อีก 3.5 หมื่นล้านบาท นอกจากนี้ หากนำเงินสดจากการขายสินทรัพย์งวดแรกมาจ่ายหนี้ทั้งหมด จะลดภาระดอกเบี้ยได้ราวปีละ 800 ล้านบาท ราคาหุ้น YTD ยังปรับตัวลดลง  21% เทียบ ADVANC + 22.8% / DTAC +19.2% ด้าน Bloomberg Consensus คาดผลขาดทุนจากการดำเนิงานในปี 61 (ไม่รวมกำไรพิเศษ) จะลดลงจาก 3.69 พันล้านบาทในปีนี้ เหลือนราว 770 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 6.58 บาท น่า "ซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัว"

·        EASON (ราคาปัจจุบัน 4.02 บาท "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 4.50 บาท)รายงานกำไร 3Q60 ที่ 25.11 ล้านบาท เติบโต 10.7%YoY จากรายได้จากการดำเนิงานเติบโต 11.35%YoY แบ่งเป็น กลุ่มสีรถจักรยานยนต์ (30% ของรายได้) เติบโต 29.8%YoY และกลุ่มสีกระป๋อง (65% ของรายได้) เติบโต 4.9%YoY ขณะที่ถูกกดดันบางส่วนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 46.4% มาที่ 44.1% แต่ทั้งนี้ ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม อาทิ APCON (ถือหุ้น 20.95%) ที่ 5.11 ล้านบาท ซึ่งมีการรับรู้ปี 60 เป็นปีแรกตั้งแต่ช่วงต้นปี

·        ความเห็น เนื่องจากงวด 9M60 ผลกำไรคิดเป็นเพียง 60% ของประมาณการของฝ่ายวิจัย ซึ่งมีเหตุหลักมาจากการรับรู้รายได้จากบริษัทร่วม APCON และ ORIGIN (ถือหุ้น 40%) ที่ผิดจากคาด เป็นเหตุให้ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างทบทวนประบลดประมาณการกำไรปี 60 แต่ทั้งนี้ ภาพรวมปี 61 บริษัทน่าจะยังมีผลประกอบการที่เติบโตได้หลังธุรกิจในต่างประเทศ ทั้ง เวียดยาม / อินโดนีเซีย / และมาเลเซีย เริ่มทยอยใช้กำลังการผลิตที่มากขึ้นหลังได้การยอมรับจากผู้ซื้อซึ่งร่วมทดสอบมานานกว่า 2 - 3 ปีก่อนส่งคำสั่งซื้อจริง รวมถึงการเลื่อนการรับรู้รายได้จาก APCON ที่เป็นเพียงการเลื่อนการรับรู้ โดยรวมยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 4.50 บาท

·        TSF เพิ่มทุน 6.39 พันล้านหุ้นขายให้ ผถห.เดิม 1:1 ราคา 0.10 บาท/หุ้นแถมวอร์แรนต์

·        CHO เพิ่มทุน 539.88 ล้านหุ้น ขาย PP ให้ "Macquarie Bank Limited"-RO นำเงินใช้โครงการ E-Ticket-ศูนย์ซ่อมรถสิบล้อ