เสี่ยวมี่ดันสมาร์ทโฟนใหม่ โหมหนักตลาดไตรมาส 4

เสี่ยวมี่ดันสมาร์ทโฟนใหม่ โหมหนักตลาดไตรมาส 4

ลุยหนักสมาร์ทโฟนไทย ส่งสินค้าใหม่ “มี่ มิกซ์ 2” ลงตลาดเป็นทางการ วางเรือธงไตรมาส 4 เผยมีแผนเปิดตัวสินค้า ลงทุนการตลาด ขยายช่องทางในไทยต่อเนื่อง

นายสตีเวน หวัง ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาการตลาด เสี่ยวมี่ โกลบอล กล่าวว่า มีแผนนำสินค้าใหม่เข้ามาเปิดตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงสำหรับไตรมาสที่ 4 รุ่น "มี่ มิกซ์ 2 (Mi Mix 2)"

สมาร์ทโฟนดังกล่าว มาพร้อมหน้าจอไร้กรอบขนาด 5.99 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ชิปประมวลผลควอลคอมสแนปดรากอน 835 แรม 6 กิกะไบต์ หน่วยความจำ 64 กิกะไบต์ กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์โซนี่ สามารถเชื่อมต่อกับโมบายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รองรับแอลทีอีกว่า 6 โหมด 43 ย่านความถี่ ราคา 17,990 กำหนดวางตลาดอย่างเป็นทางการวันนี้ (15 พ.ย.)

ทั้งนี้ หากนำไปเทียบกับสินค้าเรือธงของแบรนด์ผู้นำตลาดเช่น ซัมซุง ที่ความจุเท่ากันรุ่นกาแล็คซี่ เอส 8 พลัส ราคา 30,900 บาท แอ๊ปเปิ้ล ไอโฟน 10 ราคา 40,500 บาทมี่ มิกซ์ 2 ให้สเปคที่แรงกว่า ทว่าราคาถูกกว่าอย่างมาก

เขาเผยว่า จากปัจจุบันมีสินค้าวางจำหน่าย 40 รายการ ตั้งเป้าไว้ว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 60 รายการ ทั้งสมาร์ทโฟน อุปกรณ์เสริม แกดเจ็ท สมาร์ทโฮม และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ฯลฯ

ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมทั้งออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของลาซาด้า และออฟไลน์เช่น ค้าปลีกโมบายชั้นนำ เจมาร์ท ไอทีซิตี้ ปัจจุบันบริษัทยังเข้ามาเปิด “มี่ สโตร์” ในไทยแล้ว 2 สาขา อนาคตมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายเพิ่มอีกแน่นอน ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานที่ตั้งที่เหมาะสม ประเมินขณะนี้ตลาดไทยนิยมช่องทางออฟไลต์มากกว่าออนไลน์ ส่วนความร่วมมือกับทางผู้ให้บริการเครือข่ายไม่อาจตอบได้

นายสตีเวนกล่าวต่อว่า การเข้ามาในไทยยังเป็นช่วงของการเริ่มต้น ดังนั้นเป้าหมายธุรกิจเน้นสร้างตลาด ฐานลูกค้า ปูทางทำธุรกิจในระยะยาว โดยยังไม่ได้หวังเรื่องส่วนแบ่งการตลาด

พร้อมระบุ มีแผนใช้งบลงทุนในประเทศมากขึ้นแน่อน ทว่าขอเวลาศึกษาตลาดเพื่อใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม ที่ผ่านมาเช่นตลาดอินเดียใช้เวลา 3 ปี สามารถขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ได้ ในประเทศไทยก็หวังว่าจะทำได้ดีเช่นเดียวกัน

เสี่ยวมี่ประกาศเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนส.ค.2560 โดยร่วมมือกับ บริษัท วีเอสที อีซีเอส ตำแหน่งทางการตลาดวางเป็นแบรนด์ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ราคาจับต้องได้ ที่ผ่านมาธุรกิจสามารถเติบโตได้รวดเร็ว

สำหรับในระดับโลก ข้อมูลระบุว่า เมื่อไตรมาสที่ 3 ครองอันดับท็อป 5 สมาร์ทโฟนโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 7.4% รองจากอันดับ 1 ซัมซุง 22.3% แอ๊ปเปิ้ล 12.5% หัวเว่ย 10.5% และ ออปโป้ 8.2% ตามลำดับ