EGCO - ซื้อ

กำไรสุทธิหลังหักภาษีมากกว่าคาด

EGCO รายงานกำไรสุทธิหลังหักภาษีไตรมาส 3/60 ที่ 3,517 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 24% YoY และทรงตัว QoQ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 590 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 2,927 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 6% QoQ ซึ่งกำไรหลักมากกว่าที่เราคาดการณ์ 4% (และที่ตลาดคาดการณ์ 14%) โดยมีปัจจัยหลักจารายได้ที่สูงกว่าประมาณการของเรา

ประเด็นหลักผลประกอบการ

รายได้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 7% YoY และ 11% QoQ โดยรายได้ที่เติบโต YoYและ QoQ เนื่องจากมีการเริ่มจ่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า TJ Cogen (โรงไฟฟ้า SPP ขนาด 115 เมกะวัตต์ บริษัทถือ 100% เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในเดือน ก.ค. 2560)

อัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 3/60 อยู่ที่ 31.9% ทรงตัว YoY ( 32.0% ในไตรมาส 3/59) แต่เพิ่มขึ้นมาจาก 30.8% ในไตรมาส 2/60 ส่วนอัตรากำไร
สุทธิปรับตัวที่ 44.4% เพิ่มขึ้นจาก 38.3% ในไตรมาส 3/59 แต่ลดลงจาก 49.4% ในไตรมาส 2/60 จากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้น YoY แต่ลดลง QoQ

แนวโน้ม

เราคาดว่ากำไรไตรมาส 4/60 จะเพิ่มขึ้น YoY จากการรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี แต่กำไรมีแนวโน้มลดลง QoQ โดยส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า BLCP (โรงไฟฟ้า IPP พลังงานก๊าซ ขนาด 1,320 เมกะวัตต์ บริษัทถือ 50%)ที่ลดลงจากแผนปิดปรับปรุงซ่อมแซมโรงไฟฟ้าในไตรมาส 4/60 จะมีน้ำหนักมากกว่าส่วนแบ่งกำ ไรที่เพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า TP และ SK Cogen (โรงไฟฟ้า SPP พลังงานก๊าซ ขนาดรวม250 เมกะวัตต์ โดยบริษัท EGCO เป็นเจ้าของ) ที่จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/60

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

กำไรหลักในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2560 คิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรปี 2560 ที่ 9,960 ล้านบาท ซึ่งเรายังคงไม่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามเราได้ทำการปรับประมาณการกำไรสุทธิของเราเพื่อให้สอดคล้องกับการบันทึกกำไรพิเศษในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2560 ส่งผลให้ประมาณการกำไรสุทธิของเราปรับเพิ่มขึ้น 22% มาอยู่ที่ 12,192 ล้านบาท

คำแนะนำ

เรามองราคาหุ้นที่อ่อนตัวลงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยแนวโน้มกำไรที่ดีจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในอนาคต เราคาดกำไรหลักปี 2561 จะเติบโต 16% หนุนโดยการรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้า SPP ที่เริ่มดำเนินการในปี 2560 ทั้งนี้เราปรับเป้าหมายการลงทุนเป็นปี 2561 และปรับราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2561 ที่ 260 บาท ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายอยู่ที่ PER ณ สิ้นปี 2561 ที่ 10.1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 16.2 เท่า เราจึงปรับคำแนะนำของเราจาก ถือ มาเป็น ซื้อ