ครม.ไฟเขียวเว้นภาษีกำไรขายทองคำผ่านตลาดล่วงหน้า

ครม.ไฟเขียวเว้นภาษีกำไรขายทองคำผ่านตลาดล่วงหน้า

"ครม." ไฟเขียวเว้นภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม จากการซื้อ-ขายทองคำแท่งผ่านตลาดล่วงหน้า ยันไม่กระทบรายได้จัดเก็บรัฐ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อขายทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีการรับมอบส่งมอบทองคำแท่ง โดยกำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้จากการขายทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

นอกจากนี้ยังรวมถึงเงินชดเชยเลื่อนการรับมอบส่งมองทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า นอกจากนี้ยังรวมถึงการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการประกอบกิจการซื้อขายทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ที่ยังไม่ขึ้นรูปเป็นทองรูปพรรณ ตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

"การยกเว้นภาษี จะประกอบด้วย สำหรับผู้มีเงินได้ซึ่งได้รับเงินได้ส่วนที่เกินกว่าที่ลงทุนจากการขายทองคำแท่งดังกล่าว และอีกกรณีคือ สำหรับผู้มีเงินได้จากการชดเชยที่ได้รับจากกรณีเลื่อนการรับมอบส่งมอบทองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ดังกล่าว ตามสัญญาช่วงหน้า ซึ่งกระทำในศูนย์และยอมให้ผู้จ่ายเงินได้หักภาษี ณ ที่จ่ายที่ 15% ของเงินได้ดังกล่าว เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้ " นายณัฐพร กล่าว

โดยกระทรวงการคลัง เสนอว่า ปัจจุบัน บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และธนาคารแห่งประเทศไทยในการดำเนินการให้ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำที่มีการส่งมอบบสินค้าอ้างอิง โดยมีสัญญา Gold-D Futures เป็นสัญญาแรก

ทั้งนี้ สัญญาดังกล่าวนั้น เป็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% กำหนดหน่วยการซื้อขายเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการซื้อขายให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ขนาดของ 1 สัญญา มีค่าเท่ากับทองคำน้ำหนัก 100 กรัม และกำหนดให้มีการรับมอบส่งมอบทองคำจริง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บงทุนที่ต้องการรับมอบ ส่งมอบและครอบครองทองคำจริง ซึ่งจำนวนทองคำสำหรับการส่งมอบมีค่าเท่ากับทองคำน้ำหนัก 1 กิโลกรัม หรือ 32.148 ทรอยออนซ์ หรือ 10 สัญญา

อย่างไรก็ตาม เงินได้จากการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในกรณีที่มีการส่งมอบและรับมอบ จึงมีภาระภาษีมูลค่าเพิ่มจากการซื้อขายทองคำด้วย และมีภาระภาษีเงินได้โดยผู้มีเงินได้ต้องนำไปรวมเพื่อชำระภาษีเงินได้ประจำปี ดังนั้น เพื่อเป็นการสนับสนุนการซื้อขายทองคำตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการซื้อขายมองคำแท่งที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% จึงกำหนดให้สีมาตรการเว้นภาษีเพื่อสนับสนุนการซื้อขายทองคำแท่งตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าดังกล่าว

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถกำกับดูแลการซื้อขายทองคำแทงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากจะมีศูนย์รวมข้อมูลธุรกรรมในเชิงนโยบายที่ครบถ้วน โปร่งใส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการกำกับดูแลการซื้อขายทองคำแท่ง และมีกฎหมายกฎเกณฑ์และหน่วยงานกำกับดูแลที่ชัดเจน และช่วยสนับสนุนก.ล.ต. ในการกำกับดูแลธุรกิจทองคำแท่งและคุ้มครองผู้ลงทุนในทองคำแท่ง เพื่อเป็นการลดตวามเสี่ยงของระบบการเงินไทย จากช่องว่างที่มีผู้เข้ามาประกอบธุรกิจให้บริการซื้อขายทองคำแท่งแบบ Gold online โดยไม่มีการกำกับดูแลด้วย

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลัง รายงานว่า การดำเนินการดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของภาครัฐ เพราะคาดว่าจะมีการสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีอากรบางส่วนเท่านั้น