'ประยุทธ์'โชว์วิสัยทัศน์ เวทีอาเซียนบวกสาม มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ

'ประยุทธ์'โชว์วิสัยทัศน์ เวทีอาเซียนบวกสาม มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจ

"นายกฯประยุทธ์" โชว์วิสัยทัศน์ ชวนอาเซียน-จีน-ญี่ปุ่น-เกาหลี พัฒนาเศรษฐกิจเชื่อมโยงไร้รอยต่อ เชื่อยกระดับศก.เอเชียตะวันออกได้

เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียนบวกสาม ครั้งที่ 20 ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติฟิลิปปินส์ กรุงมะนิลา สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยพล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีแสดงความชื่นชมความสำเร็จของความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสามในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา จนถือได้ว่าเป็นกรอบความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดกรอบหนึ่งที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง และยินดีที่จะร่วมรับรองปฏิญญามะนิลาในโอกาสครบรอบ 20 ปีของความร่วมมืออาเซียนบวกสาม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกให้เข้มแข็ง และขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกอย่างยั่งยืน

พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ต้องเสริมสร้างความเชื่อมโยงที่ไร้รอยต่อในภูมิภาคเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะระหว่างอาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธารณรัฐเกาหลี โดยพัฒนาแนวคิดความเป็นหุ้นส่วนอาเซียนบวกสาม ด้านความเชื่อมโยง ที่ผู้นำอาเซียนบวกสามได้รับรองตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มประเทศอาเซียน บวกสามเป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่มีการรวมตัวที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น การส่งเสริมความเชื่อมโยงควรเน้นหลายมิติพร้อม ๆ กัน เช่น ด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านกายภาพ ด้านกฎระเบียบ ด้านดิจิทัล และระหว่างเอกชนกับเอกชน และประชาชนกับประชาชน เพื่อให้เกิดพื้นที่เศรษฐกิจที่มีความเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ

พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า โดยประเทศบวกสามควรใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวของประชาคมอาเซียน ด้วยการเพิ่มปริมาณการค้าและการลงทุนในอาเซียนให้มากขึ้น เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ในขณะนี้อาเซียนจะเร่งรัดการอำนวยความสะดวกทางการค้า เช่น การลดต้นทุนธุรกรรมทางการค้าภายในภูมิภาคลงร้อยละ 10 ภายในปี ค.ศ. 2020 การพิจารณาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์จุดเดียว การจัดทำระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ด้วยตนเองของอาเซียน และการจัดการกับมาตรการที่มิใช่ภาษี เป็นต้น

ทั้งนี้ อาเซียนบวกสามมีความคืบหน้าในความร่วมมือในหลากหลายสาขา อาทิ ด้านการเงิน โดยเห็นได้จากมาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี และด้านการเกษตร ในการนี้โดยที่ประเทศบวกสามมีความก้าวหน้าทั้งทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม และพลังงานสะอาด เป็นต้น นายกรัฐมนตรีหวังว่าประเทศในอาเซียนบวกสามจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการค้นคว้าวิจัย และการเสริมสร้างความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับการรวมตัวทางเศรษฐกิจในกรอบอาเซียนบวกสามอย่างต่อเนื่องต่อไป ในระยะยาว หากทั้ง 13 ประเทศสามารถต่อยอดความร่วมมือในกรอบอาเซียนบวกสามให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นในด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งดำเนินการตามแผนงานความร่วมมืออาเซียนบวกสามอย่างเต็มที่

"นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถสร้างพื้นฐานที่จะยกระดับอาเซียนบวกสามให้เป็นประชาคมเศรษฐกิจเอเชียตะวันออก ตามข้อเสนอแนะของกลุ่มวิสัยทัศน์เอเชียตะวันออก รุ่นที่ 2 เพื่อส่งเสริมการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่มีความเข้มแข็งและความร่วมมือในด้านต่างๆ ภายใต้กรอบอาเซียนบวกสาม ซึ่งจะทำให้ภูมิภาค เอเชียตะวันออกสามารถรักษาสถานะและพลวัตด้านเศรษฐกิจให้ยั่งยืนต่อไปในระบบเศรษฐกิจโลก" พล.ท.วีรชน กล่าว