ร้องเรียนให้ตรวจสอบหมูป่าในวัดสร้างความเดือดร้อน

ร้องเรียนให้ตรวจสอบหมูป่าในวัดสร้างความเดือดร้อน

จนท.เข้าตรวจสอบวัดท่าโขลง จ.ราชบุรี หลังมีชาวบ้านร้องเรียนหมูป่าออกไปสร้างความเดือดร้อน

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 13 พ.ย. 60 นายประทีป เหิมพยัคฆ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี จ.ราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบจำนวนหมูป่าที่อยู่ภายในวัดท่าโขลง ซึ่งตั้งอยู่ หมู่ 2 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังมีผู้ไปร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม ราชบุรี และร้องเรียนผ่านเฟสบุ๊ค ว่า หมูป่ามากกว่า 40 ตัวที่อาศัยอยู่ในวัดท่าโขลงนั้น ได้ออกไปอาละวาดกัดกินต้นไม้ รวมทั้งไปคุ้ยเขี่ยหาอาหารในถังขยะที่อยู่ตามหน้าบ้านของชาวบ้านในระแวกนั้น ทำให้ถังขยะล้ม ขยะหล่นกระจัดกระจาย ทำให้เกิดความสกปรก และเป็นอย่างนี้ไปตลอดทางเดินภายในหมู่บ้าน สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกับวัดเป็นอย่างมาก ได้แจ้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้วแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข จึงได้นำไปโพต์สขอความช่วยเหลือในเฟสบุ๊ค ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบเพื่อหาแนวทางในการจัดการกับหมูป่า ซึ่งทราบว่าเป็นหมูป่าที่ชาวบ้านนำมาถวายให้วัดเลี้ยงและมีการแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็ว จนออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน นอกจากนี้ยังฝูงวัวที่ชาวบ้านนำมาถวายเพราะไปถ่ายชีวิตมา ซึ่งมีมากกว่า 40 ตัว ก็ถูกเลี้ยงอยู่ในวัด แต่มูลวัวนั้นส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ

นางเฉลียว พรานพนัส อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับวัด บอกว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาทำการจับหมูป่าออกไปให้หมดหรือถ้าไม่จับไปก็ให้ล้อมคอกกั้นบริเวณให้หมูป่าอยู่ จะได้ไม่ออกไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ซึ่งเคยเห็นหมูป่ามาตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนขณะนี้เพิ่มจำนวนมากขึ้น

ด้านนายประทีป เหิมพยัคฆ์ หน.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี เผยว่าหลังจากได้รับร้องเรียนเรื่องหมูป่าที่วัดท่าโขลง ออกมารบกวน สร้างความเดือนร้อนให้กับบ้านชาวที่อาศัยอยู่บริเวณรอบวัด รวมทั้งโรงเรียน

เบื้องต้นได้ประสานกับทางเจ้าอาวาสแล้วเนื่องจากมีเรื่องร้องเรียนมาก่อนหน้านี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทหารก็ได้มานำเอาไปแล้วบางส่วนแล้ว ส่วนชาวบ้านที่มีความประสงค์จะเอาไปเลี้ยง ก็มาติดต่อทางวัดได้ หรืออีกอย่างก็ต้องนำไปปล่อยตามแหล่งธรรมชาติ ซึ่งในตอนนี้ยังไม่ทราบจำนวนที่แน่นอนว่ามีกี่ตัว แต่จากการสอบถามชาวบ้านคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 30 ตัว อาศัยหลบอยู่ตามป่าละเมาะข้างวัด

ในส่วนการแก้ไขได้ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และอบต.หลุมดิน ให้มาร่วมกันดำเนินการซึ่งอยู่ระหว่างร่วมกันหาทางแก้ไขแล้ว และขอว่าอย่านำหมูป่ามาถวายให้กับวัดอีกเลยเพราะเป็นการสร้างภาระให้กับทางวัด รวมทั้งชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ก็ต้องฝากประชาสัมพันธ์ผู้ปกครองด้วยว่า ในช่วงหน้าฝนหมูป่าชอบอยู่ตามปักเลน และจะมีเห็บที่เป็นพาหะนำเชื้อไข้ไทฟัส หรือไข้รากสาดใหญ่ เมื่อเห็บไปเกาะตามจุดอับในร่างกายและกัดก็อาจจะเป็นไข้ได้โดยเฉพาะเด็กๆ ต้องระวังเป็นพิเศษ หมูเป็นสัตว์ป่าที่แข็งแรงแต่คนโดนกัดแค่ตัวเดียวอาจเป็นโรคอื่นๆขึ้นได้