'ศรีวราห์'สั่งเช็คเเหล่งกบดานต่างด้าว เอี่ยวปมส่วย100ล.

'ศรีวราห์'สั่งเช็คเเหล่งกบดานต่างด้าว เอี่ยวปมส่วย100ล.

“ศรีวราห์” สั่งเช็คเเหล่งกบดาน 142 ต่างด้าวโอเวอร์สเตย์ ชี้อาจเอี่ยวปมส่วย 100 ล้าน สอบพบผู้โพสเฟซบุ๊กร้องเรียนเป็นคู่ขัดเเย้งกับตร.


เมื่อเวลา 12.00น. วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณี สั่งการ ภ.จว.ภูเก็ต ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจ ภ.จว.ภูเก็ต 15 นาย ว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบพฤติกรรมต้องสงสัยเกี่ยวกับการจับกุมดำเนินคดีชาวต่างด้าวฐานอยู่ในราชอาณาจักรเกินเวลาที่กำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ 142 ราย แต่ไม่ส่งต่อให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองผลักดันออกตามกระบวนการ ซึ่งขณะนี้สั่งการให้ตรวจสอบต่างด้าวทั้ง 142 คนแล้ว ว่าเป็นใครตอนนี้อยู่ที่ไหน ออกนอกประเทศไปหรือยัง จากการตรวจสอบเบื้องต้นในจำนวนนี้ไม่มีผู้ที่อยู่ในบัญชีบุคคลเฝ้าระวัง หรือบุคคลต้องห้ามเข้าประเทศแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามอยู่ ตรวจสอบว่ามีนัยยะด้านความมั่นคงหรือไม่ ส่วนจะเกี่ยวกับการกลุ่มก่อการร้ายหรือไม่ ไม่ทราบ แต่สั่งการตรวจสอบในมิติด้านความมั่นคงแล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เชื่อว่าหลังจากตนสั่งการให้สืบสวนข้อเท็จจริงตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตแล้ว ในส่วนของสตม.ต้องมีการตรวจสอบเป็นการภายในเพื่อทำเรื่องนี้ให้กระจ่างด้วยเกี่ยวกับเรื่องต่างด้าวทั้ง 142 คนนี้ แต่เท่าที่สอบถามเบื้องต้น ทางสตม.ไม่ทราบข้อมูลนี้เพราะไม่ได้รับแจ้งจากตำรวจภ.จว.ภูเก็ต แต่อย่างไรก็ตามจากนี้ ทางสตม.ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้อง

รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ที่มีการร้องเรียนเรื่องการเรียกรับส่วนเดือนละ 100 ล้านบาทในพื้นที่ภูเก็ต ตนก็สั่งให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง คือ บช.ภ.8 สตม. บช.ตำรวจท่องเที่ยว ตชด. ไปตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของแต่ละหน่วยแล้ว ส่วนจะมีนายตำรวจ ยศพล.ต.ต.หรือไม่ ตนไม่ทราบรายละเอียด แต่สั่งให้เเต่ละหน่วยไปดำเนินการแล้ว โดยในส่วนตร.ก็มี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รรท.จเรตำรวจแห่งชาติ คุมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีกชุดหนึ่ง อย่างไรก็ตามกรณีที่กล่าวหาเรื่องรับส่วยสั่งการให้รับดำเนินคดีสืบสวนสอบสวนทุกคดี ทั้งนี้ยอมรับว่าผู้ที่ออกมาร้องเรียนเรื่องนี้ ที่เป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก เป็นคู่ขัดแย้งกับตำรวจมีการแจ้งความดำเนินคดีกันไปมา แต่ในส่วนการร้องเรียนก็ต้องตรวจสอบ ดำเนินการตามพยาน

รองผบ.ตร.กล่าวว่า ปัญหาการปล่อยต่างด้าว เคยพบมาก่อนหน้านี้ เคยมีตำรวจถูกให้ออกจากราชการอยู่แล้ว โดยในจังหวัด ใหญ่ เช่นพัทยา จ.ชลบุรี เชียงใหม่ ไม่พบปัญหานี้แต่พบที่ภูเก็ต ครั้งนี้ก็ต้องสอบว่ามีการทุจริต เรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ และตรวจสอบว่าไปเกี่ยวพันกับกรณีส่วย 100 ล้านบาทหรือไม่ แต่ก็เป็นไปได้ว่าเกี่ยวพันกัน เชื่อว่าการทำแบบนี้ทำเป็นขบวนการ มีเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยพบว่าเมื่อมีการตั้งกรรมการเรื่องนี้ก็มีการส่งข้อความต่อๆกันผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ในกลุ่มต่างด้าวที่โอเวอร์สเตย์ให้หลบหนีตำรวจจะจับกุมกวาดล้าง อย่างไรก็ตามในขบวนการให้พักพิงต่างด้าว ดูแลต่างด้าวโอเวอร์สเตย์นั้นยังไม่พบตำรวจเกี่ยวข้องชัดเจน แต่ถ้าเข้าไปเกี่ยวข้องรับประโยชน์ก็ต้องดำเนินการตามกระบวนการแน่นอน

ขณะที่มีรายงานจาก สตม.ว่า ระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ตระดมกวาดล้างต่างด้าวผิดกฎหมาย ได้ 95 ราย แยกเป็นสัญชาติอินเดีย 62 ราย ปากีสถาน 11 ราย อียิปต์ 6 รายและอื่นๆ 16 รายข้อหาโอเวอร์สเตย์ 70 ราย หลบหนีเข้าเมือง 24 ราย อื่นๆ 1 ราย