ตำรวจสืบสวนภาค4 ทลายแก๊งปลอมโฉนดที่ดิน อุปกรณ์เครื่องมือเพียบ หลังมีผู้แจ้งมีคนนำโฉนดปลอมค้ำประกันเงินกู้เสียหายกว่า 20 ล้าน โฉนดปลอมอีกนับร้อย
วันที่ 10 พ.ย.2560 ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 4 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.ผบช.ภ.4 พร้อมชุดจับกุมชุดสืบสวน กก.3 บก.สส.ภ.4 แถลงข่าวจับกุมนางอุบลรัตน์ มนตรี อายุ 51 ปี ที่อยู่ 15/01 ต.หนองกุงใหญ่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นายสมพาน โกศิลา อายุ 47 ปี ที่อยู่ 338 ม.8 ต.โพธิ์ศรีสำราญ อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี และนายอุดม ภูตินันท์ อายุ 49 ปี ที่อยู่ 63 ม.5 ต.เมืองหมี อ.เมืองหนองคาย พร้อมของกลางโฉนดที่ดินปลอม โฉนดที่ดินเปล่า เครื่องพิมพ์ดีด ตรายางประจำสำนักงานที่ดิน ตรายางชื่อเจ้าหน้าที่ที่ดิน รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ตปากกา และอุปกรณ์อื่นอีกหลายรายการที่ใช้ในการปลอมแปลงเอกสาร
พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาได้มีผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุก์กับพนักงานสอบสวน สภ.กระนวน ว่ามีกลุ่มบุคคลนำเอาโฉนดที่ดินปลอมมาค้ำประกันเงินกู้ จำนวน 69 ฉบับ คิดเป็นเงินประมาณ 5 ล้าน และยังมีอีกหลายรายที่ได้รับความเสียหายจากกลุ่มบุคคลนี้นำเอาโฉนดที่ดินปลอมไปค้ำประกันเงินกู้ ในพื้นที่ อ.พระยืน จำนวน 20 สัญญาเสียเงินมูลค่า 18 ล้านบาท ในเมืองขอนแก่น 11 สัญญา เสียหาย 1 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายรวมครั้งนี้ 24,150,000 บาท ชุดสืบสวน 3 บก.สส.ภ.4 จึงได้จัดชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนหาคนร้ายมาดำเนินคดี
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ที่จัดทำและนำโฉนดที่ดินปลอมมาขายคือนายอุบลรัตน์ มนตรี โดยนำเอาโฉนดที่ดินปลอมไปขายให้กับกลุ่มคนหลายคน เพื่อนำเอาไปหลอกกู้เงินจากผู้เสียหาย โดยขายโฉนดปลอมในราคา 13,000-15,000 บาท โดยมีนายสมพาน โกศิลา ทำหน้าที่ขับรถยนต์พานายอุดม ภูตินันท์ นำโฉนดไปส่งให้กับผู้ซื้อตามที่นางอุบลรัตน์สั่ง ได้ค่าจ้างคนละ 500 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนล่อซื้อโฉนดปลอมในราคา 13,000 บาท และนัดส่งมอบกันที่ริมถนนมิตรภาพ โดยมีนายสมพานขับรถให้นายอุดมนั่งโดยสารมาส่งโฉนดตามที่นัดหมายจึงแสดงตัวจับกุม และขยายผลจับตัวนางอุบลรัตน์ได้พร้อมของกลางที่ใช้ทำโฉนด
จากการสืบสวนพบว่ามีผู้เสียหายทั้งในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำธุรกรรมกับเจ้าพนักงานที่ดินแต่อย่างใด โดยวิธีการปลอมโฉนดที่ดินของคนร้ายจะมีทั้งปลอมโฉนดที่ดินขึ้นใหม่ทั้งฉบับ และนำโฉนดที่ดินของจริงที่ได้แจ้งหายไว้แล้วมาขูดลบเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียดชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์แล้วนำไปขายให้กับกลุ่มของตนเอง เพื่อนำไปค้ำประกันเงินกู้กับผู้เสียหาย ซึ่งทำกันเป็นขบวนการกลุ่มใหญ่ แต่ละกลุ่มจะมีคนกู้กับคนค้ำประกันรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 คน ชุดสืบได้สอบสวนติดตามและอายัดตัวเพราะบางคนมีหมายจับ 100 กว่าหมาย น่าจะมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการร้องทุกข์ หรือระหว่างเจรจาไกล่เกลี่ย รวมทั้งมีผู้เสียหายอีกจำนวนมากที่ยังไม่แจ้งความและไม่ทราบว่าให้กู้เงินโดยมีโฉนดปลอมเป็นค้ำประกัน
พล.ต.ต.สุรชัย กล่าวอีกว่า แม้แต่พนักงานสอบสวนต้องตรวจให้ละเอียดสำหรับการนำเอาโฉนดที่ดินมาค้ำประกันผู้ต้องหา หรือบริษัทเงินกู้นายทุนที่ไม่มีเวลา ต้องให้บุคคลที่เชื่อใจได้ไปตรวจสอบโฉนดที่สำนักงานที่ดินจังหวัด เพราะโฉนดยังปลอมได้เอกสารรับรองของเจ้าหน้าที่ที่ดินเชื่อว่าก็สามารถปลอมได้ ถ้าปล่อยให้กลุ่มผู้กู้ดำเนินการตรวจสอบหรือนำหนังสือรับรองมาแสดงเอง