'นักออกแบบจากเมืองใหญ่' จับมือ 'ช่างฝีมือชนเผ่าจากดอยตุง'

'นักออกแบบจากเมืองใหญ่' จับมือ 'ช่างฝีมือชนเผ่าจากดอยตุง'

"นักออกแบบจากเมืองใหญ่" จับมือ "ช่างฝีมือชนเผ่าจากดอยตุง" สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์พิเศษ "ดอยตุง แอนด์ เฟรนด์ส 2017" ตามรอยสมเด็จย่า เดินหน้าต่อยอดและสืบสานพระราชปณิธาน "ปลูกป่า ปลูกคน"

“โครงการ ดอยตุง แอนด์ เฟรนด์ส 2017” (DoiTung and Friends 2017) ต่อเป็นปีที่ 2 พร้อมชวนศิลปินและนักออกแบบชั้นนำจากเมืองใหญ่ มาสร้างสรรค์ผลงาน คอลเลกชั่นพิเศษ ร่วมกับช่างฝีมือชนเผ่าจากดอยเล็ก เพื่อนำรายได้ไปพัฒนาศักยภาพของคนในโครงการของมูลนิธิฯ ต่อไป โดยจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโครงการฯ  ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การสยามพารากอน เมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ม.ล. ดิศปนัดดา ดิศกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กล่าวว่า “จากพระราชปณิธานของสมเด็จย่า   ในเรื่อง ปลูกป่า ปลูกคน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวไทยภูเขาในพื้นที่ดอยตุง ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ด้วยการพัฒนาทักษะ ความรู้ และสร้างอาชีพที่สุจริต ให้พึ่งพาตนเองได้ จึงเป็นที่มาของโครงการดอยตุง แอนด์   เฟรนด์ส ซึ่งมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ริเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว เพื่อหวังให้คนในเมืองหลวงได้รับรู้ถึงศักยภาพและความสามารถของชนเผ่าบนดอยตุง ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ในปีนี้มูลนิธิฯ จึงสานต่อเป็นปีที่ 2 โดยเชิญศิลปินและนักออกแบบชั้นนำ ที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในสังคม มาช่วยออกแบบผลิตภัณฑ์ดอยตุงให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น”

สำหรับปีนี้ ได้รับเกียรติจาก 6 ศิลปินและนักออกแบบชั้นนำ ได้แก่ สมบัษร ถิระสาโรช แฟชั่นกูรู และออแกไนเซอร์ชื่อดัง, กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหาร นิตยสาร Vogue ประเทศไทย, จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล เจ้าของแบรนด์ SANSHAII (สัญชัย), ภูภวิศ กฤตพลนารา เจ้าของแบรนด์ ISSUE (อิชชู่), มลลิกา เรืองกฤตยา และ ณัฎฐ์ มั่งคั่ง จาก    แบรนด์ KLOSET (คลอเส็ท) มาร่วมสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คอลเลกชั่นพิเศษกว่า 50 ชนิด ร่วมกับช่างฝีมือชนเผ่าของดอยตุง  ซึ่งล้วนแต่มีธรรมชาติ วัฒนธรรม และเรื่องราวในพื้นที่เป็นแรงบันดาลใจ โดยรายได้จากการจำหน่ายหลังหักค่าใช้จ่าย          จะนำไปใช้ในการพัฒนาศักยภาพของคนในโครงการพัฒนาดอยตุง และโครงการขยายผลอื่นๆ ของมูลนิธิฯ ต่อไป

ด้าน สมบัษร ถิระสาโรช พันธมิตรที่เคยร่วมสร้างสรรค์ผลงานในปีที่แล้ว กล่าวว่า “ภูมิใจที่ได้ช่วยเผยแพร่ความสามารถของช่างฝีมือดอยตุงให้เป็นที่ยอมรับของคนเมือง ปีนี้เลยไม่พลาดมาร่วมโครงการฯ อีกครั้ง” โดยได้ออกแบบ กระเป๋าย่ามแบบลาหู่ คอลเลกชั่น Original is Forever (ออริจินอล อิส ฟอร์เอเวอร์) ด้วยแนวคิดว่า ย่ามเป็นของใช้ประจำวันในวัฒนธรรมดั้งเดิม ที่ยังคงมีการใช้งานอยู่ในวิถีชีวิตของชาวไทยภูเขา ผสานกับการใช้สีดำ ซึ่งเป็นสีที่อมตะ

ส่วน กุลวิทย์ เลาสุขศรี อีกหนึ่งพันธมิตรที่เคยร่วมโครงการฯ ในปีที่แล้ว กล่าวว่า “ปีที่แล้วได้รับการตอบรับดีมาก ครั้งนี้เราเลยเลือกพันธมิตรให้มีสไตล์ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ในปีนี้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น”  โดยได้ร่วมออกแบบ กระเป๋าผ้าทอมือ คอลเลกชั่น Untitled (อันไทเทิล) ผลิตด้วยผ้าฝ้ายผสมใยกัญชงของช่างฝีมือดอยตุง ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยหนัง เพื่อให้ได้รูปทรงที่ทันสมัย สามารถใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง

ขณะที่ จิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านแฟชั่น และเจ้าของแบรนด์ SANSHAII (สัญชัย) กล่าวว่า “ช่างฝีมือดอยตุงมีฝีมือที่ประณีต สวยงาม แต่ยังขาดเรื่องดีไซน์ จึงไปช่วยแนะนำให้เขากล้าสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ แต่ยังคงความเป็นตัวตน (unique) อยู่” จึงเลือกเอาผ้าลินิน ผสมฝ้ายย้อมคราม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งผลผลิตที่โดดเด่นของดอยตุง และเหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย มาออกแบบเป็น ชุดแฟชั่น และแอคเซสซอรี่ คอลเลกชั่น KRAMM (คราม) ซึ่งมีทั้ง เสื้อคลุม          ที่สามารถใส่ได้ 2 ด้าน, กางเกงขายาว, เดรสลำลองสไตล์คาฟแทน (Kaftan), กระเป๋าถือแฟชั่น, หมวกทรงโบ้ทแฮท (Boat Hat) และ รองเท้าผ้าฝ้าย สีน้ำเงินเข้ม และสีม่วงแดง   

ด้าน ภูภวิศ กฤตพลนารา เจ้าของแบรนด์ ISSUE (อิชชู่) กล่าวว่า “งานของช่างฝีมือดอยตุงเรียกได้ว่าเป็นงานฝีมือจริงๆ เพราะแต่ละชิ้นละเอียดมาก แต่น่าเสียดายที่บางคนบอกว่าลูกหลานจะไม่ยอมสืบทอด เพราะทำไปก็ไม่มีใครเห็นคุณค่า เลยจุดประกายให้ลงมือช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อไม่ให้งานฝีมือเหล่านี้สูญหายไป” โดยได้ออกแบบคอลเลกชั่น แม่ฟ้าหลวง ที่ใช้เทคนิคลายพิมพ์ จากลายครอสติส และปักลงบนผ้าทำให้เกิดความร่วมสมัยมากขึ้น ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากงานอดิเรกของสมเด็จย่า คือการผ้าปักครอสติส และงานปั้นเซรามิก โดยมีให้เลือกช็อปทั้ง เสื้อคลุมตัวยาว (Rope) ผ้าฝ้ายผสมลินิน      สีดำ และพิมพ์ลาย, เสื้อคลุมกิโมโนพิมพ์ลาย จับคู่กับ กางเกงม้งพิมพ์ลาย พร้อมเพิ่มความเก๋ด้วย หมวกแก็ป และ กระเป๋าผ้าฝ้ายผสม ในสไตล์ ISSUE

 ส่วน มลลิกา เรืองกฤตยา และ ณัฎฐ์ มั่งคั่ง จากแบรนด์ KLOSET (คลอเส็ท) กล่าวว่า “อยากเป็นสื่อกลางในการสื่อสารให้คนทั่วไปได้รับรู้ว่า ดอยตุงไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ของคนไทย แต่เป็นการช่วยคนให้มีงานทำ เลิกสูบฝิ่น เพื่อให้ชาวบ้านเหล่านั้นได้เห็นคุณค่าในตัวเอง จะได้พึ่งพาตนเองได้” จึงได้ออกแบบ เสื้อผ้าแฟชั่นสตรี (Ready to Wear) คอลเลกชั่น   Wild Orchid (ไวลด์ ออร์คิด) เน้นการตัดต่อระบาย เพื่อเพิ่มความพลิ้วไหวเหมือนกลีบดอกกล้วยไม้ ช่วยเพิ่มลุคเฟมินินให้กับ       ผู้สวมใส่ โดยมีให้เลือกทั้ง เสื้อตัวในดีไซน์เก๋, เสื้อเบลาส์เปิดไหล่สีส้มสดใส จับคู่กับ กางเกงขายาวลายทาง, ชุดเดรสสีแดงลายทาง สไตล์วินเทจ และ เสื้อคลุมลายทาง สีเขียวสด

โดยภายในงานได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้คนดัง อาทิ พิพัฒพงศ์ อิศรเสนา ณ อยุธยา, ศรีวรา–กรัชเพชร อิสสระ, พิมสวาท-เมธี วัฒนศิริโรจน์, ประวิช สุขุม, ม.ล.รดีเทพ เทวกุล, ดร.อุษณีย์ มหากิจศิริ ลีโอณีโอ, อุษณา มหากิจศิริ ทัพพะรังสี, กมลสุทธิ์ ทัพพะรังสี, ณัฐวรรณ ตันหยงมาศ, ปิยวรา ทีขะระ เนตรน้อย, ปัทมน อดิเรกสาร,          ภัทท สหวัฒน์, ภัทรา สหวัฒน์, ม.ล.พลอยนภัส–อภิชาต ลีนุตพงษ์, อลิสา พันธุศักดิ์ คุนผลิน ฯลฯ มาร่วมชื่นชมผลงานคอลเลกชั่นพิเศษ พร้อมเลือกจับจองเป็นเจ้าของกันตั้งแต่เริ่มงาน ทำเอาชาวดอยตุง และนักออกแบบปลื้มไปตามๆ กัน

ร่วมเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์คอลเลกชั่นพิเศษ ใน “โครงการ ดอยตุง แอนด์ เฟรนด์ส 2017” (DoiTung and Friends 2017) ได้ตั้งแต่วันอังคารที่ 7 – วันอาทิตย์ที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เวลา 10.00 น. – 22.00 น. ณ ดอยตุง แอนด์ เฟรนด์ส ป็อป อัพ สโตร์ (DoiTung and Friends Pop Up Store) ชั้น M ศูนย์การค้าสยามพารากอน ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง www.facebook.com/DoiTungClub