แอมไชน่าทาวน์ชูมิกซ์ยูส“โรงแรม-รีเทล”เสริมรายได้

แอมไชน่าทาวน์ชูมิกซ์ยูส“โรงแรม-รีเทล”เสริมรายได้

ธุรกิจอสังหาฯ ชูโปรเจค “มิกซ์ยูส” หวังสร้างรายได้ประจำ “แกรนด์ ยูนิแลนด์” ลงทุน 3 พันล้าน ปั้นโครงการ “แอมไชน่าทาวน์” ทำเลเยาวราช รับดีมานด์ค้าปลีก-ที่อยู่อาศัย ดึงเชนโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส” เจาะนักท่องเที่ยว

นายสุวรรณ เลิศปัญญาโรจน์ ประธานกรรมการ บริษัทแกรนด์ ยูนิแลนด์ จำกัด และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอแอม ไชน่าทาวน์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทเป็นผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและรีเทลมากว่า 30 ปี เช่น โครงการอิมพีเรียลพาร์ค ,บ้านนวลจันทร์ ,โอเชี่ยนปาล์ม ,ศูนย์การค้าวันแอทโบ๊เบ๊, แอมพาร์ค สามย่าน เป็นต้น

ล่าสุดได้ใช้งบลงทุน 3,000 ล้านบาท พัฒนาโครงการมิกซ์ยูส “แอมไชน่าทาวน์” สไตล์ โมเดิร์น ไชนีส พื้นที่ 3 หมื่นตร.ม. ประมาณ 3 ไร่ บนถนนเจริญกรุง บริเวณด้านหน้าสถานีวัดมังกรกมลาวาส รถไฟฟ้าใต้ดิน(สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยาย หัวลำโพง-ท่าพระ) ที่จะเปิดให้บริการในปี 2562 พร้อมการเปิดตัวเต็มรูปแบบของโครงการเดือนมี.ค.2562

โครงการแอมไชน่าทาวน์ มี 2 อาคาร คือ อาคารสูง 15 ชั้น ประกอบด้วย ศูนย์การค้า,โรงแรมและที่พื้นที่จอดรถ โดยพื้นที่ศูนย์ฯรวม 4 ชั้น ตั้งแต่ชั้นบีถึงชั้น 3 โดยจัดทำเป็นศูนย์รวมสินค้าชื่อดังในย่านเยาวราช ,ศูนย์แฟชั่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ,ศูนย์อัญมณี และศูนย์รวมร้านอาหารชื่อดังและสตรีทฟู้ดท้องถิ่นย่านเยาวราช อัตราค่าเช่า ตร.ม.ละ 2,500 บาทต่อเดือน ขณะนี้มียอดจองเช่าพื้นที่ 70%

ดึง“ฮอลลิเดย์อินน์”บริหารโรงแรม

ส่วนพื้นที่โรงแรม อยู่ที่ชั้น 4-9 โดยเซ็นสัญญาร่วมกับกลุ่มธุรกิจโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮเทลส์ กรุ๊ป หรือ IHG เพื่อเปิดบริการเชนโรงแรมระดับ 4 ดาว “ฮอลลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ไชน่าทาวน์” จำนวน 224 ห้อง ราคาห้องพักคืนละ 1,800 บาท เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักธุรกิจ เชื่อว่าจะมีอัตราเข้าพักไม่ต่ำกว่า 80% สำหรับพื้นที่จอดรถของโครงการอยู่ชั้นใต้ดินรวม 6 ชั้น

“ในย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของกรุงเทพฯ และเป็นที่รู้จักในระดับโลก แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก แต่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่มีเชนโรงแรมเต็มรูปแบบเปิดให้บริการ จึงเชื่อว่าโรงแรมของบริษัทจะมีอัตราเข้าพักสูงตลอดทั้งปี”

เปิดคอนโดโลว์ไรส์ทำเลทองคำ

   นายสุวรรณ กล่าวว่าส่วนที่อยู่อาศัย พัฒนาแยกอีก 1 อาคารในพื้นที่ใกล้โครงการ บนพื้นที่ 2,000 ตร.ม. รูปแบบคอนโดมิเนียม โลว์ไรส์สูง 8 ชั้น จำนวน 46 ยูนิต ขนาด 21-25 ตร.ม. ตกแต่งพร้อมอยู่เริ่มต้นยูนิตละ 2.9 ล้านบาท เป็นสัญญาเช่า 30 ปี เปิดจองวันที่ 24 พ.ย.นี้ คาดว่าจะขายหมดภายในวันเดียว เนื่องจากย่านเยาวราชเป็นทำเลทองคำ ที่ไม่สามารถหาซื้อที่ดินพัฒนาโครงการได้ แต่มีดีมานด์ที่อยู่อาศัยและแหล่งค้าขายเพิ่มขึ้นทุกปี

โครงการมิกซ์ยูส แอมไชน่าทาวน์ เมื่อพัฒนาแล้วเสร็จคาดมูลค่าโครงการอยู่ที่ 4,000 ล้านบาท ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้ว 30% เริ่มเปิดให้บริการช่วงสิ้นปี 2561 และเปิดเต็มรูปแบบ มี.ค.2562

ที่ผ่านมาทำเลเยาวราช ไม่มีที่ดินว่างให้พัฒนาโครงการมากว่า 30 ปี เพราะส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์เก่าที่มีค่าเซ้งเปลี่ยนมือในอัตราสูงห้องละ 40 ล้านบาท ขนาด 12 ตร.วา สำหรับที่ดินโครงการขนาด 3 ไร่ เป็นการเช่าจากเจ้าของที่ดิน สัญญา 60 ปี โดยจะเริ่มอายุสัญญาเมื่อโครงการเปิดบริการในปี 2562

มุ่งมิกซ์ยูส-รีเทลเสริมรายได้

นายสุวรรณ กล่าวว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย จะมีรายได้ครั้งเดียว เมื่อก่อสร้างและขายโครงการแล้วเสร็จ ขณะที่การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ทั้งโรงแรมและศูนย์การค้า จะสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการศูนย์การค้าแอมไชน่าทาวน์ที่อยู่ในทำเลชุมชนหนาแน่นและแหล่งท่องเที่ยว คาดว่าจะคุ้มทุนใน 5 ปี

ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทหลังจากนี้ จะมุ่งพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย พร้อมขยายโครงการรีเทล วางเป้าหมาย 10 ปี มี 10 โครงการรีเทล ปัจจุบันมี 3 โครงการ คือ ศูนย์การค้าวันแอทโบ๊เบ๊ ประเภทค้าปลีกและค้าส่งเสื้อผ้า ,โครงการแอมพาร์ท แอท สามย่าน รูปแบบไลฟ์สไตล์มอลล์ และแอมไชน่าทาวน์ อยู่ระหว่างก่อสร้าง

ขณะที่กำลังอยู่ระหว่างแผนการทำศูนย์การค้าแอมพาร์คแอทสามย่าน จัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน(กองรีท) ร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาฯ รายอื่นอีกโครงการ รวมมูลค่า 1,500 ล้านบาท เฉพาะแอมพาร์ทแอทสามย่าน อยู่ที่ 600 ล้านบาท เพื่อนำเงินมาลงทุนโครงการรีเทลอื่นๆ ในปีหน้า