รวบผัวเมียวัยรุ่นซุกยาบ้าใต้รองเท้าแตะ

รวบผัวเมียวัยรุ่นซุกยาบ้าใต้รองเท้าแตะ

รวบผัวเมียวัยรุ่น ซุกยาบ้าใต้รองเท้าแตะ ร่ำไห้อ้างหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูกน้อย

เมื่อวันที่ 7 พ.ย. พ.ต.ท.ทวี ภาน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยจอดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านเหล่าสวนกล้วย หมู่ 4 ต.หนองเทา อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ห่างจากวัดโพนสิมมา หลังมีชาวบ้านพบชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นคนต่างถิ่นขับเข้ามาจอด แล้วนั่งเรือข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน มีพฤติกรรมน่าสงสัยอาจจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

หลังรับจึงประสาน ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ข่ำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง จ.อ.นาวี โคตร ปาลี ผบ.หมวดปืนเล็กที่2กกล.สุรศักดิ์มนตรี และทหารพรานที่ 2107 พร้อมกำลังร่วม 10 นาย ไปตรวจสอบที่บริเวณดังกล่าว พบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีดำคาดแดง ทะเบียน1กฆ 286 บึงกาฬ จอดริมถนนคอนกรีตอยู่ห่างตลิ่งริมฝั่งโขง 20 เมตร แต่ไม่พบเจ้าของรถ

เจ้าหน้าที่จึงใช้กล้องส่องทางไกล ตรวจไปยังกลางแม่น้ำโขง พบเรือกีบหางยาวติดเครื่องยนต์ 1 ลำ ในเรือมีชายหญิง 2 คนนั่งมาเป็นผู้โดยสาร แล่นจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจอดเทียบริมตลิ่งฝั่งไทย จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ทราบภายหลังว่าชื่อนายเอ (นามสมมุติ) วัย 16 ปี ชาว อ.นาทม จ.นครพนม และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เป็นภรรยาชาว อ.เซกา จ.บึงกาฬ ตรวจค้นตามร่างกาย พบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง บัตรเอทีเอ็มของธนาคารแห่งหนึ่ง เงินสด 2,970 บาท แต่ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่จึงปล่อยตัวสองผู้ต้องสงสัยวัยรุ่นคู่นี้ไป บังเอิญเจ้าหน้าที่นายหนึ่งสังเกตเห็นนายเอ เดินเขย่งปลายเท้ามีท่าทางพิรุธ โดยไม่ยอมเหยียบส้นเท้าติดพื้น คล้ายมีอะไรยัดอยู่ในรองเท้าคู่นั้น จึงเรียกกลับมาตรวจค้นที่รองเท้าแตะสีดำเหลืองคาดขาวยี่ห้อดังอีกรอบ ซึ่งอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม จึงใช้มีดแกะดูทั้งสองข้างถึงกับตะลึง ภายในพื้นพบยาบ้าซุกในรองเท้าข้างละ 5 ถุง บรรจุอยู่ในถุงหูรูดสีน้ำเงิน รวม 10 ถุง จำนวน 2,104 เม็ด จึงคุมตัวสองผัวเมียวัยรุ่นไว้สอบสวน

สอบสวนเบื้องต้น น.ส.บี ร้องไห้สารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนและนายบี สามี เคยเป็นลูกจ้างร้านเนื้อย่างเกาหลีแห่งหนึ่งใน อ.เซกา แต่ตกงานทั้งคู่ ได้รับการว่าจ้าง 5,000 บาท จากนายทุนคนหนึ่งให้นำเงิน 40,000 บาท ไปซื้อยาบ้าจากฝั่งลาว ราคาเม็ดละ 50 บาท จำนวน 2,000 เม็ด ซึ่งนายทุนผู้ว่าจ้างได้ติดต่อเรือกีบให้มารับ-ส่งที่จุดนัดพบดังกล่าว โดยติดต่อกับพ่อค้าชาวลาวได้นำยาบ้าซุกซ่อนไว้ใต้พื้นรองเท้าคู่ใหม่ให้ ส่วนคู่เก่าที่สวมมานั้นได้โยนทิ้งไป เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่ และอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก หวังนำเงินค่าจ้างไปจ่ายค่างวดรถ จยย. และซื้อนมเลี้ยงลูกน้อยเป็นชายวัย 3 ขวบ กระทั่งถูกจับกุมในที่สุด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายทุนผู้ว่าจ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรเอทีเอ็มที่นายเอ และ น.ส.บี ผู้ต้องหาอ้างถึง ได้นำพกติดตัวมาและกดเงินที่ธนาคารแห่งหนึ่งเพื่อเป็นทุนซื้อยาบ้า แต่ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งจะได้สอบสวนขยายผลนายทุนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติต่อไป