หนุ่มใหญ่ วัย 66 ปี ชิงทรัพย์ร้านทอง ทำทีเข้ามาเลือกทอง อ้างเป็นของขวัญแต่งงานลูกชาย ตร.ค้นบ้านพบสร้อยคอหนัก 5 บาท ประวัติเคยต้องคดียาเสพติด
เมื่อเวลา 13.00น.วันที่ 6พฤศจิกายน พ.ต.ท.ศุภชัย เขนสันเทียะ สว.(สอบสวน)สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงสร้อยคอทองคำในร้านทองชื่อ ห้างทอง ไทยนิรันดร์ ภายในตลาดสด ศิริชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1/98-99 แขวงและเขตบางบอน กทม. จึงประสานเจ้าหน้าหน้ากองพิสูจน์หลักฐาน(พ.ฐ.)ร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ รอง ผกก.สส.สน.บางขุนเทียน
ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ จำนวน2 คูหาตั้งอยู่กลางตลาด
จากการสอบสวน นาย ชัยพล ฉิมวัย อายุ 47 ปี พนักงานขายทอง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าว่า เมื่อเวลา 11.00น. ขณะนั้น ร้านมีลูกค้าเข้ามาเลือกทองอยู่และมีพนักงานอยู่ในร้านประมาณ3-4คน. คนร้าย สวมเสื้อยืดคอปกสีเขียว สวมกางเกงขายาว เข้ามาในร้านโดยส่วมหมวกกันน็อคแบบครึ่งใบสีขาว เปิดหน้ากากหมวกกันน็อค เห็นใบหน้าชัดเจน เข้ามาบอกว่า ขอเลือกซื้อสร้อยทองไปเป็นของขวัญแต่งงานลูกชายขอเลือกสร้อยทองน้ำหนัก5บาท จำนวน2เส้น โดยไม่มีท่าทีมีพิรุจแต่อย่างใด กระทั่งบอกกับตนว่า ขอออกไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวกลับมาซื้อใหม่ ต่อมา เวลาประมาณ13.00น.คนร้ายกลับมาที่ร้านอีกครั้ง แต่สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีเขียวคาดม่วง ทับภายนอกเข้ามาเลือกดูสร้องทองอีกครั้ง แต่จู่ๆ คนร้ายพยามจะเอาสร้อยทองใส่กระเป๋ากางเกง ด้วยความมีสติตนจึงได้กระโจนเข้ากระชากเสื้อยื้อแย้งกันอยู่ ไม่นานคนร้ายก็ใช้มือขวาลวงควักปืน ชนิดแม็กกาซีน ออกมาจากเอวแล้วบอกว่า มีปืนนะ ซึ่งตนไม่รู้ว่าเป็นปืนจริงหรือปลอม ออกมาขู่ ตนจึงได้ รีบปล่อยมือก่อนที่คนร้ายจะวิ่งหลบหนีออกไปจากร้าน ขึ้นรถจยย.ที่นำมาจอดหน้าร้านขี่หลบหนีไป
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ เผยว่า หลังเกิดเหตุได้มีพลเมืองดีพบเห็นเหตุการณ์ขี่ จยย.ตามคนร้าย ซึ่งหลบหนีออกจากร้านทองวิ่งเข้าถนนบางขุนเทียน ลัดเข้าซอย พระราม2 54และจอดอยู่หย้าบ้านเช่า ไม่มีเลขที่ แต่เมื่อคนร้ายเห็นว่ามีพลเมืองดี ขี่ตามมาก็ควักปืนกระบอกเดิมยกขึ้นมาขู่พลเมืองดี.ด้วยความกลัวจึงรีบขี่รถจยย.ออกมาและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบบ้านเช่าไม่ทราบเลขที่หลังดังกล่าว ไม่พบตัวคนร้ายซึ่งคาดว่าจะหลบหนี.ไปแล้วแต่พบรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีน้ำเงินขาว หมายเลขทะเบียนฬษง 96 กรุงเทพมหานคร มีการนำเทปดำปิดทะเบียนส่วน หมวดอักษรเอาไว้เพื่ออำพราง
พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบ ลูกชายของชายที่คาดว่าจะก่อเหตุ ชื่อนาย ดำรง จันทรชิต อายุ34ปี ลูกชาย ซึ่งป่วยทางประสาท ให้การว่าพ่อเข้าบ้านมาแล้วก็เอาสร้อยทองน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น ของกลางซึ่งตรวจยึดได้ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ มาให้ตนโดยไม่ได้พูดอะไรก่อนจะเดินออกจากบ้านไป ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามา ซึ่งจากการตรวจสอบบ้านของคนร้าย ได้หลักฐานคือสร้อยคอทองคำของกลางแล้ว ยังพบเสื้อคลุมที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ และปืน บีบีกัน ชนิดแม็กกาซีนซึ่งคาดว่าจะเป็นปืนที่ใช้ก่อเหตุ อยู่ภายในบ้านจึงทำการตรวจยึดเพื่อรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือและดีเอ็นเอ ของคนร้าย
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ต้องหารายนี้คือนาย ชาคริต หรือมิตร จันทรชิต อายุ 66ปี ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ เคยต้องโทษในคดีครอบครองยาเสพติดเมื่อปีพ.ศ.2555 ศาลสั่งจำคุก2ปี สำหรับการติดตามตัวเจ้าหน้าที่ทั้ง บก.สส.บก.น.9และ ฝ่าย สส.สน.บางขุนเทียนได้ประชุมระดมทีมสืบสวนลงยังจุดที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี และติดต่อญาติเพื่อกดดันให้คนร้ายเข้ามอบตัว