“พาราไดซ์ เปเปอร์ส”แฉรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลเลี่ยงภาษี

“พาราไดซ์ เปเปอร์ส”แฉรายชื่อผู้ทรงอิทธิพลเลี่ยงภาษี

ในจำนวนนี้ รวมถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2

หนังสือพิมพ์ซุดดอยช์ ของเยอรมนี ที่เคยเปิดโปง “ปานามา เปเปอร์ส” เมื่อปีที่แล้ว ได้ติดต่อสมาคมผู้สื่อข่าวสืบสวนสอบสวนระหว่างประเทศ หรือไอซีไอเจ ประกอบด้วย สื่อมวลชน 381 คน จากองค์กรสื่อ 96 แห่ง ใน 67 ประเทศ ให้ตรวจสอบไฟล์เอกสาร 13.4 ล้านชิ้น ที่มาจากฐานข้อมูลของสำนักกฎหมาย “แอ๊ปเปิลบี” (Appleby) ที่ทำธุรกิจรับจดทะเบียนบริษัทนอกอาณาเขต โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เบอร์มิวด้า

ฐานข้อมูลนี้ ครอบคลุมระยะเวลาการทำงาน 70 ปี ของแอ๊ปเปิลบี ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 ถึงปี 2559 ซึ่งชี้ให้เห็นว่ามีบุคคลและธุรกิจ 126 ราย จาก 47 ประเทศ รวมทั้งเชื้อพระวงศ์, รัฐมนตรีในรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์, นักแสดงฮอลลีวู้ดและนักร้องชื่อดัง เป็นผู้ถือครอง บริษัทนอกอาณาเขต 24,996 แห่ง โดยเฉพาะเบอร์มิวด้า หมู่เกาะเคย์แมน และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น

ฐานข้อมูลนี้ มีขนาดความจุ 1.4 เทอราไบท์ ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีการเผยแพร่ นับแต่กรณีวิกิลีกส์ เมื่อปี 2553 และปานามา เปเปอร์ส์ ขนาด 2.6 เทอราไบท์ ที่เผยแพร่เมื่อปี 2559

ในกรณีของสมเด็จพระราชินีนาถแห่งอังกฤษ พบว่า พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 10 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 450 ล้านบาท ได้ถูกนำไปลงทุนในต่างประเทศ โดยสำนักงานจัดการลงทุนทรัพย์สินส่วนพระองค์ “ดัชชี ออฟ แลงคาสเตอร์” ได้นำทรัพย์สินส่วนพระองค์มูลค่า 500 ล้านปอนด์ หรือราว 22,500 ล้านบาท ไปลงทุนที่เกาะเคย์แมนและเบอร์มิวดา ช่วงปี 2547-2548

ทั้งนี้ นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ถูกระบุว่า ได้รับผลประโยชน์ในบริษัทขนส่งสินค้า ที่มีรายได้มหาศาลจากการขนส่งน้ำมันและก๊าซให้แก่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ที่มีบุตรเขยของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน และบุคคลอีก 2 คนที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ถือหุ้นอยู่ในบริษัทแห่งนี้ด้วย

นอกจากนี้  ยังมีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง ไนกี้ และแอ๊ปเปิ้ล ที่ถูกระบุว่า อาศัยบริษัทนอกอาณาเขตเพื่อเลี่ยงภาษี ขณะที่สโมสรดังแห่งพรีเมียร์ลีกอังกฤษอย่าง “เอฟเวอร์ตัน” ถูกตั้งคำถามว่า “แหกกฎ” หรือไม่ กรณีผู้ถือหุ้นรายหนึ่งถูกตั้งคำถามเรื่องการระดมทุน