‘บัวหลวง’ ชี้ตลาดมีโอกาสฟื้นตัว

นายธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน ด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค หลักทรัพย์บัวหลวง กล่าวว่า  กราฟแท่งเทียนชี้ว่า ตลาดหุ้นไทยพลิกกลับมาปรับตัวสูงขึ้นรูปแบบ  “Hammer” (เปิดต่ำปิดสูง) ขณะที่ดัชนีฟื้นตัวบนเส้นค่าเฉลี่ย 1,695 จุด (25-days EMA) ตามคาดตลาดดูเหมือนจะมองหาโอกาสในการปรับตัวขึ้น เนื่องจากโครงสร้างหลักที่อยู่บนเทรนด์ขาขึ้น

ขณะที่ตัวชี้วัดเครื่องมือทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญญาณบวก เช่น การกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน มูลค่าการซื้อขายของตลาดเพิ่มขึ้น และการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดใหญ่ เช่น กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี ไฟแนนซ์ และค้าปลีกได้มีการปรับตัวขึ้นตามตลาด รวมทั้งหุ้นขนาดกลาง Growth stock ปรับตัวขึ้นโดดเด่นไม่แพ้กัน อย่างไรก็ดีแนะนำจับสภาพคล่องการเงินสูงที่ไหลกลับให้เห็นถึงทิศทางค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าขึ้น ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 33.5 บาท/ดอลลาร์

“ตลาดจะไม่ปรับตัวลงไปลึก และมีโอกาสฟื้นตัวบริเวณแนวรับที่ให้ไว้ ฉะนั้นแนะนำทยอยซื้อหุ้นที่มีสัญญาณฟื้นตัวตามตลาด”
            ทั้งนี้แนะนำซื้อหุ้นที่มีสัญญาณบวกสอดคล้องกับสัญญาณทางเทคนิค ได้แก่ CHG แนวรับ 2.64 บาท แนวต้าน 2.9 บาท TOP แนวรับ 97.5 บาท แนวต้าน 104 บาท  STEC แนวรับ 25 บาท แนวต้าน 28 บาท  และแนะล๊อคกำไร LH บริเวณแนวต้าน  10.7 บาท HANA แนวต้าน 49 บาท MC แนวต้าน 15.8 บาท
            หุ้นคงเหลือในพอร์ตได้แก่ MAJOR, MINT, SPALI, JMT, STEC, TPOLY, MALEE, CHG, TOP ส่วนแนวโน้มตลาดระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,696 จุด แนวต้าน 1,709 จุด SET 100 รับ 2,425 จุด ต้าน 2,447 จุด
BSET100 รับ 10.44 บาท ต้าน 10.55 บาท BMSCITH รับ 12.41 บาท ต้าน 12.52 บาท

3 หุ้นสัญญาณเด่น

หลักทรัพย์บัวหลวง แนะนำลงทุนหุ้นสัญญาณบวก 3 ตัว คือหุ้น CHG ราคาเป้าหมาย  2.9 บาท จุด Stop loss 2.64 บาท  หุ้นทะลุจุดยอดเดิม 2.66 บาท พร้อมกับปริมาณหุ้นสะสมจากค่า OBV ที่เพิ่มขึ้นมองเป้าหมายถัดไป 2.9 บาท

หุ้น TOP  ราคาเป้าหมาย 104 บาท  Stop loss 97.5 บาท ราคาปิดบวกภายหลังจากการปรับตัวลงแรง มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อเนื่องจากสัญญาณฟื้นตัวบริเวณแนวรับ 97.5 บาท และค่า RSI เริ่มฟื้นตัว

หุ้น STEC ราคาเป้าหมาย  28 บาท  Stop loss 25 บาท หุ้นฟื้นตัวขึ้นบนแนวรับ 24.5-25 บาท ได้ตามคาดขณะที่ค่า MACD cross หนุนสัญญาณบวกในระยะยาว

หลักทรัพย์บัวหลวง แนะนำออมหุ้นทุกวันแบบเฉลี่ยต้นทุน ผ่านการลงทุนแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA) และออมแบบ Value Averaging (VA)  ซึ่งเป็นเครื่องมือในการลดความเสี่ยงการลงทุน รวมถึงสร้างโอกาสในการลงทุน ด้วยการกระจายสัดส่วนเฉลี่ยการซื้อในทุกงวด เพื่อช่วยลดความกังวลในเรื่องราคา ความผันผวน และการจับจังหวะการซื้อหลักทรัพย์ ในระยะสั้น

ทั้งนี้การลงทุนทั้งสองแบบจะเหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการสะสมหรือออมเงินลงทุนในรูปแบบหลักทรัพย์ และต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในระยะยาว สนใจรับคำปรึกษาเพิ่มเติมที่ 02-618-1566-69 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://knowledge.bualuang.co.th/knowledge-base/dca_va/

อย่างไรก็ดีภายในงาน SET in the City2017 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 16-19 พ.ย.นี้ ณ สยามพารากอน หลักทัรพย์บัวหลวง ได้นำนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะช่วยให้การลงทุนสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ไว้ให้นักลงทุนหลากหลายสไตล์เลือกใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม stock signal โปรแกรม ialgo โปรแกรม itracker และการออมหุ้นด้วยระบบอัตโนมัติ อย่าง SAP01 เป็นต้น