SCB - ถือ

SCB - ถือ

มีความกังวลต่อสินเชื่อขนาดใหญ่บางราย

ประเด็นการลงทุน

เรามีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อบรรษัทของ SCB มากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อที่ปล่อยกู้ให้กับ PACE และ Wind Energy Holding Co Ltd. เราจึง
ปรับลดคำแนะนำลงจาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” จนกว่าผู้บริหารจะออกมาให้ความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะของสินเชื่อเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เรายังมองว่า SCB จะสามารถบรรลุเป้าหมายปี 2560 ได้ ดังนี้: สินเชื่อเติบโต 4-6%, ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 3.1-3.3%, และอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ 40-43%

ประเด็นสินเชื่อที่ปล่อยให้กับบรรษัท

ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ แหล่งข่าวอสังหาฯ ชี้ว่า SCB ออกกฏเกณฑ์ให้กับนักลงทุนผู้สนใจซื้อโครงการอสังหาฯ ประเภทที่อยู่อาศัยระดับบนของ PACE (เราไม่ทราบรายละเอียดใน TOR) แต่ในที่ประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ ผู้บริหาร SCB เลี่ยงที่จะพูดถึงประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหนี้สินของ PACE อย่างไรก็ตาม หากมีนักลงทุนเข้าซื้อโครงการของ PACE ตามเป้าน่าจะเป็นข่าวดีทำให้ธนาคารไม่ต้องนับสินเชื่อของ PACE ไปเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ทั้งนี้ เรายังต้องจับตาประเด็นดังกล่าวต่อไป นอกจากนี้ กรณีสินเชื่อธนาคารที่ปล่อยให้ Wind Energy Holdings ซับซ้อน และใช้เวลามากในการแก้ไขและปรับโครงสร้าง อย่างไรก็ตามหากหุ้นบริษัทสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ปีหน้า จะเป็นข่าวดีสำหรับธนาคารที่จะได้เงินจากบริษัทในการสะสางหนี้ดังกล่าว โดยเบื้องต้น เราสันนิษฐานว่า SCB ยังไม่ได้สำรองค่าเผื่อหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญของหนี้ทั้งสองรายอย่างเต็มจำนวน

อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ยังสูงเนื่องจากอยู่ในภาวะการลงทุนจำนวนมากปีหน้า

SCB ใช้เงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาทสำหรับโครงการเปลี่ยนแปลงระบบธนาคารสู่ ดิจิตอล โดยเริ่มตั้งแต่ไตรมาส 2/59 นอกจากนี้ธนาคารวางแผนจะใช้เงินอีก 2 หมื่นล้านบาทระหว่างปี 2561 และ 2562 ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้อาจสูงกว่าที่เราประเมินก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการรายได้ที่ไม่ได้มาจากดอกเบี้ยลง 4% สำหรับปี 2560 มาอยู่ที่ 4.5 หมื่นล้านบาท และปรับลด 7% สำหรับปี 2561 มาอยู่ที่ 4.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งสะท้อนแผนของ SCB ที่จะขยายการทำรายการผ่าน PromptPay และ ระบบโปรแกรมสำเร็จรูป (Applications) เพื่อรองรับกระแส Fintech (ระบบการทำธุรกรรมการเงินและการพาณิชย์ผ่านระบบ ดิจิตอลที่ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลางธนาคาร) ที่ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียมต่ำกว่าการดำเนินงานปกติไปบ้างแล้ว ดังนั้น เราจึงปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ของเราขึ้นจาก 42.2% เป็น 42.9% สำหรับปี 2560 และจาก 42.5% เป็น 42.3% สำหรับปี 2561 (ยังอยู่ในกรอบเป้าหมายของผู้บริหาร)

สินเชื่อยังคงดีตามเป้าและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยรับมีอัพไซด์

SCB ยังคงเป้าหมายสินเชื่อเติบโตที่ 4-6% หลังจากที่สินเชื่อขยายตัว 2.8% ในเก้าเดือนแรกของปี 2560 หนุนโดยสินเชื่อบรรษัทและรายย่อย เราคาดสินเชื่อจะเติบโตด้วยอัตราเร่งในไตรมาส 4/60 และปี 2561 เนื่องจากการจับจ่ายภาคเอกชนฟื้นตัว อีกทั้งเราคาดว่าธนาคารอาจมีดีลปล่อยสินเชื่อซื้อกิจการปีหน้า แต่ประมาณการสินเชื่อเติบโต ณ ปัจจุบันของเราอยู่ที่เพียง 4% ในปีนี้และปีหน้า หากสินเชื่อเติบโตดีกว่าคาด จะเป็ยนอัพไซด์ให้เราปรับคาดการณ์ขึ้น ธนาคารยังคงเป้าหมายส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปี 2560 ในกรอบ 3.1-3.3% แม้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเก้าเดือนแรกของปี 2560 จะอยู่ในระดับสูงที่ 3.46% เช่นเดียวกัน เรายังคงประมาณการดังกล่าวของเราเท่าเดิมที่ 3.25% ในปีนี้ และ 3.37% ในปีหน้า