'สมชัย'สวน'มีชัย' กกต.ไร้อำนาจขยายเวลาให้พรรคการเมือง

'สมชัย'สวน'มีชัย' กกต.ไร้อำนาจขยายเวลาให้พรรคการเมือง

"กกต.สมชัย" โต้ "ประธานฯมีชัย" ชี้กกต. ไร้อำนาจขยายเวลาแบบทั่วไป ให้พรรคทำกิจกรรมตามกฎหมาย เหตุต้องให้พรรคทำหนังสือขออนุญาตก่อน ยันความพร้อมเต็มที่ สนับสนุนทุกพรรคเก่า-พรรคใหม่ แจงปฏิทิน 13 วันหลังปลดล็อค คสช.

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่า กกต. ไม่มีอำนาจขยายวันให้พรรคการเมืองเตรียมพร้อมทำกิจกรรมตามที่บทเฉพาะกาลในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นการทั่วไป ตามที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ ซึ่งจากตรวจสอบเบื้องต้นตามบทบัญญัติระบุว่า เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองต้องทำหนังสือเพื่อขออนุญาตขยายเวลาทำกิจกรรมพร้อมช่วงระยะเวลาต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง คือ เลขาธิการ กกต. และเป็นอำนาจที่นายทะเบียนจะพิจารณาอนุญาตหรือไม่อนุญาตก็ได้ ทั้งนี้หากนายทะเบียนพรรคการเมืองไม่อนุญาต ต้องส่งเรื่องมายังที่ประชุมกกต. เพื่อให้พิจารณาและมีมติสุดท้าย

“ผมคิดว่าประธานกรธ. พูดไม่ถูกต้อง ดังนั้นต้องย้ำให้ชัดว่าพรรคการเมืองต้องเป็นฝ่ายขอ ไม่ใช่กกต. จะขยายเวลาให้ได้เป็นการทั่วไป และพรรคไหนขอก็เป็นเรื่องเฉพาะพรรคการเมือง และจะขอได้ตามเวลาที่ยื่นเข้ามาเท่านั้น ส่วนระยะเวลาที่พรรคการเมืองขยายอาจจะไม่เท่ากันของและหลักเกณฑ์การให้หรือไม่ให้นั้น เป็นดุลยพินิจของนายทะเบียนพรรคการเมือง โดยผมไม่ทราบ” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวด้วยว่ากรณีการขยายเวลาทำกิจกรรมของพรรคการเมืองตามที่พ.ร.ป.พรรคการเมืองกำหนดนั้น ขอให้พรรคการเมืองพิจารณาด้วยว่าต้องไม่ขอขยายเวลาจนเกินเวลาวันเลือกตั้งที่ประกาศไว้ในพระราชกฤษฎีกาประกาศวันเลือกตั้ง เพราะอาจทำให้เสียสิทธิ์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้ตามเงื่อนเวลาในบทเฉพาะกาลของพ.ร.ป.พรรคการเมือง ที่กำหนดเวลาให้พรรคทำกิจกรรม ซึ่งแบ่งออกเป็น ช่วง 90 วัน ซึ่งครบกำหนดวันที่ 5 มกราคม 2561 พรรคต้องแจ้งเปลี่ยนแปลงสมาชิกพรรคการเมืองต่อกกต. โดยขั้นตอนต้องทำให้สมบูรณ์​ทั้ง ตัวเลข,​ตรวจสอบคุณสมบัติของสมาชิกพรรคการเมือง ภูมิลำเนา หรือการย้ายสังกัดพรรคหรือไม่ ก่อนส่งให้กกต. ทั้งนี้เหตุที่ต้องตรวจสอบภูมิลำเนาด้วยนั้น เพราะจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้งขั้นตอน (ไพรมารี่โหวต) ในส่วนของสาขาพรรคและตัวแทนจังหวัด

นายสมชัย กล่าวด้วยว่าช่วงเวลา 180 วัน หรือครบกำหนดวันที่ 5 เมษายน 2561 พรรคต้องหาสมาชิกพรรคให้ครบ 500 คน, จัดหาทุนประเดิม1ล้านบาท, เก็บค่าบำรุงพรรคจากสมาชิก ไม่น้อยกว่า 500 คน, จัดประชุมใหญ่ แก้ไขข้อบังคับ, ตั้งสาขาพรรคและตั้งตัวแทนจังหวัด ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวหากพรรคการเมืองทำไม่แล้วเสร็จต้องทำหนังสือถึงนายทะเบียนพรรคเพื่อขออนุญาตขยายเวลา เพื่อไม่ให้เสียประโยชน์หรือเสียสิทธิ์​ทั้งการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งและการได้รับเงินสนับสนุนพรรคการเมือง สำหรับการส่งสมัคร ส.ส. ต้องพิจารณาส่งบุคคลที่เป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ดังนั้นเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองต้องพิจารณาให้ดี ส่วนกกต.มีหน้าที่เพียงฝ่ายปฏิบัติและสนับสนุนเท่านั้น

“สำหรับการปลดล็อคทางการเมือง นั้นผมไม่ก้าวล่วง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และไม่ใช่หน้าที่กกต.ต้องประเมินห้วงเวลา แต่ผมเชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก แต่ทางออกนั้นต้องไม่ใช่การใช้ช่องทางที่ผิดกฎหมาย เช่น การให้กกต.ขยายวันเตรียมตัวพรรคการเมืองเป็นการทั่วไปเป็นต้น” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย ยังกล่าวด้วยว่าขณะนี้ กกต. เตรียมร่างระเบียบและประกาศ ที่เกี่ยวข้องกับ พรรคการเมือง จำนวน 8 ฉบับไว้พร้อมแล้ว อาทิ ร่างระเบียบกกต. ว่าด้วยพรรคการเมือง, ร่างประกาศกกต. เรื่องบัญชีรายชื่อพรคและจังหวัด, ร่างประกาศนายทะเบียน เรื่อง วิธีรายงานและดำเนินกิจการของพรรคการเมือง ซึ่งทันทีที่ คสช. มีคำสั่งปลดล็อคทางการเมือง ไม่เกิน 3 วัน ร่างระเบียบและประกาศจะมีผลบังคับใช้ได้ และจากนั้น ไม่เกิน 10 วัน กกต.จะเรียกประชุมตัวแทนพรรคการเมืองทุกพรรค จำนวน 70 พรรค เพื่อรับฟังข้อชี้แจงและรายละเอียดเพื่อเตรียมพร้อม และ ต่อจากนั้นประมาณ 7 วันจะเรียกประชุมตัวแทนผู้ที่จะริเริ่มก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ ทั้งนี้ยืนยันว่าขั้นตอนการอนุญาตให้จัดตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้นน จะถูกพิจารณาอย่างรวดเร็ว ไม่เกิน 2 เดือนหลังจากยื่นนเอกสาร ดังนั้นตนขอให้พรรคการเมืองคลายกังวล เพราะกกต.พร้อมจะอำนวยความสะดวกเต็มที่ ทั้งการชี้แจงและทำความเข้าใจ รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องที่พร้อมจะจัดส่งให้ตามที่ร้องขอ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ไม่มีบุคคลใดยื่นสมัครเข้ารับการสรรหาเป็น กกต. นายสมชัย กล่าวว่า ตนเชื่อว่าจะมีผู้ยื่นใบสมัครอย่างแน่นอน ส่วนจะได้คนที่รับผิดชอบหรือไม่ เป็นคนดีหรือไม่ ได้คนเก่งหรือไม่ หรือได้คนที่อยู่ภายใต้อาณัติบุคคลใดหรือไม่ หรือได้คนที่กล้าหาญหรือไม่ อยู่ที่กรรมการสรรหา ส่วนกกต.ชุดปัจจุบันนั้นพร้อมส่งมอบหน้าที่