'ร.อ.ศุภชัย' นอนคุก หลังวืดประกัน ตร.ดูแลพยานปากเอกเข้ม

'ร.อ.ศุภชัย' นอนคุก หลังวืดประกัน ตร.ดูแลพยานปากเอกเข้ม

นอนคุก!! "ผู้กองเหน่ง" วืดประกัน ด้านตร.ดูแลพยานปากเอกชี้ชัดความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ ก่อน "ผอ.อ้อย" หายตัวไป เผยเปิดหลักฐานจากมือถือ

วันที่ 31 ตุลาคม 2560 ภายหลังจากที่ พลตำรวจตรี สุรเดช เด่นธรรม ผู้บังคับการตำรวจผู้ภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการายงานตัว พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่มแก่ ร้อยเอกศุภชัย ภาโส นายทหารจากค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี อีก 3 ข้อหา อันได้แก่ คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ข้อ 2.หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 วรรค 2 และ ข้อหาที่ 3. ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ ตามประมวลผลกฎหมายอาญา มาตรา 199 ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่า ผอ.อ้อย หรือ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผู้อำนวยการกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม อบต.ชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ภายหลังจากที่พบโครงกระดูก และฝ่ายนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นศพ และชิ้นส่วนของ ผอ.อ้อย อย่างชัดเจนแล้ว

โดยภายหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ลงบันทึกประจำวันฐานความผิด แล้วส่งตัวต่อให้กับผู้พิพากษาศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ในค่ำวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา พร้อมการคัดค้านการประกันตัว ทำให้ ผู้กองเหน่ง จำต้องนอนเรือนจำจังหวัดกันทรลักษ์ ภายใต้ความพยายามของญาติ และแฟน ที่จะขออุทธรณ์เพื่อขอให้ศาลทบทวนในการให้การประกันตัวผู้กองเหน่ง แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นผล

ส่วนที่บ้านของ นายบุญเลิศ นางแหลม อุ่นอ่อน บิดา–มารดา ของ ผอ.อ้อย บ้านซำเม็ง ตำบลเสาธงชัย ชาวบ้านได้เดินทางมาให้กำลังใจกับครอบครัวตลอด แม้จะมีการยืนยันว่าพบศพของ ผอ.อ้อย แล้วก็ตาม ภายใต้ความวิตกกังวลในการที่พยายามวิ่งเต้นขอให้ศาลพิจารณาให้ญาติๆ ที่มาติดต่อขอประกันตัวผู้กองเหน่งตลอดนับตั้งแต่ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวมาส่งฟ้องศาลเมื่อค่ำวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ ผู้กองเหน่ง จำต้องนอนเรือนจำกันทรลักษ์ 1 คืน และในเช้าวันนี้ชาวบ้านซำเม็ง และญาติ ๆ ผอ.อ้อย ได้เตรียมการในการมาเฝ้ารอการพยายามยื่นอุทธรณ์ประกันตัวผู้กองต่อ ซึ่งหากศาลรับพิจารณา ฝ่ายญาติ ๆ ก็จะยื่นคัดค้านการประกันตัวเพราะเชื่อว่า หากปล่อยให้มีการประกันตัว ผู้กองเหน่ง อาจจะหลบหนีไปต่างประเทศ อาจจะไปสั่งการให้ผู้ที่เคยอยู่ใต้บังคับบัญชา ดำเนินการเข้าไปทำลายหลักฐานต่างๆ ยังจุดที่ก่อเหตุ ได้

ในส่วนพยานปากเอก ที่เป็นผู้แนะนำให้บุคคลทั้ง 2 คน ได้รู้จักกันที่ร้านกาแฟ ปังปัง บ้านเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ชายแดนเชิงเขาทางขึ้นผามออีแดง ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้เป็นพยานสำคัญ เพราะรู้เรื่องระหว่าง ผอ.อ้อย กับ ผู้กองเหน่ง ดีที่สุด นับตั้งแต่เริ่มมีการคบหากัน ให้ยืมเงินทองกัน และแม้กระทั้งการที่จะชักชวนเพื่อไปช่วยติดตามภาระหนี้สินจากผู้กองเหน่ง ยังค่ายทหารในจังหวัดอุบล ก่อนที่ ผอ.อ้อย จะหายตัวไป

และที่สำคัญ ขณะที่ ผอ.อ้อย หายตัวไป ยังมีการเล่นเฟสบุ๊คในนามของ ผอ.อ้อย เปรียบเสมือน ผอ.อ้อย ยังมีชีวิตอยู่ จนทำให้บรรดาญาติ ๆ ที่ติดตามหาตัว ผอ.อ้อย เกิดความสับสน และสุดท้าย ก็มีคลิปหลุดมาเป็นภาพของผู้กองเหน่ง ขณะเล่นเฟซฯหลุดมาหรือไม่ ทำให้ยืนยันได้ว่า ทั้งสองรู้จักกันเป็นอย่างดี และสามารถเข้าเฟสของกันและกันได้ พร้อมยืนยันอีกว่า ผู้กองเหน่ง เอามือถือ ผอ.อ้อยไปเล่นได้อย่างไร ขณะที่ ผอ.อ้อย หายตัวไป และเสียชีวิตดังกล่าว จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเชื่อมโยงความผิดต่อรูปคดีได้ ในพยานปากสำคัญต่อคดีนี้อยู่ในขณะนี้