เอเอ็มดีเร่งเกมซีพียูตลาดไทย

เอเอ็มดีเร่งเกมซีพียูตลาดไทย

ดันสายผลิตภัณฑ์ใหม่ “ไรเซ็น โมบาย” ชิงส่วนแบ่งสมรภูมิโน้ตบุ๊คเครื่องบางเบา-ทูอินวัน ชูจุดต่างชิปประสิทธิภาพสูง กราฟิกพรีเมียม มุ่งเจาะกลุ่มเกมเมอร์ นักพัฒนา ผู้ผลิตคอนเทนท์ ผู้ใช้งานระดับโปร หวังขึ้นแท่นตัวเลือกอันดับหนึ่งผู้บริโภค

นายปีเตอร์ แชมเบอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายสินค้าสำหรับผู้บริโภค ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประเทศญี่ปุ่น เอเอ็มดี กล่าวว่า บริษัทมีแผนเปิดตลาดชิปรุ่นใหม่และจะพยายามเพิ่มรุ่นสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มให้ครอบคลุมมากที่สุด

ล่าสุด เตรียมบุกหนักซีพียูสำหรับผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊ค รวมถึงเครื่องที่มีขนาดบาง น้ำหนักเบาด้วยสายผลิตภัณฑ์ “ไรเซ็น โมบาย (Ryzen Mobile)” ที่มาพร้อมชิปประมวลผลสถาปัตยกรรม “เซ็น” และการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่างเวก้า (Vega) ในตัวเดียวกัน

ด้านกลยุทธ์ โฟกัสกับตลาดเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง เทียบกับคู่แข่งในรุ่นเดียวกันสินค้าของบริษัทมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ทั้งจะมีการสื่อสารทางการตลาดกับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาพบว่าเริ่มได้รับการตอบรับที่ดี มีการค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์ในเสิร์ชเอ็นจิ้นมากขึ้นตามลำดับ

“นอกจากจากตลาดเดสก์ท็อปที่เอเอ็มดีเริ่มมีจุดยืนที่แข็งแรง อีกตลาดที่ทิ้งไม่ได้คือโน้ตบุ๊ค โดยเฉพาะเกมมิ่ง โน้ตบุ๊คขนาดบาง น้ำหนักเบา รวมถึงรูปแบบทูอินวันต่างๆ ยืนยันได้ว่าจากนี้จะได้เห็นสินค้าออกสู่ตลาดมากขึ้น จากก่อนหน้านี้ไม่เคยเข้ามาในตลาดดังกล่าวเลย”

นายเดวิด แมคอาฟี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ หน่วยธุรกิจไคลเอนต์คอมพิวติ้ง เอเอ็มดี กล่าวเสริมว่า สินค้าที่ออกสู่ตลาดจะมีตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบน เอเอ็มดีตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็นแบรนด์ที่เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของผู้บริโภคให้ได้

อย่างไรก็ดี กว่าจะไปถึงเป้าหมายคาดว่าต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 3-5 ปี เนื่องจากคู่แข่งยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดในสัดส่วนใหญ่ ดังนั้นต้องใช้เวลาสื่อสาร เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้และรับรู้ว่าดีกว่าจริง

เขากล่าวว่า บริษัททำได้ดีในตลาดเดสก์ท็อปทั้งแง่ของประสิทธิภาพ ราคา ประโยชน์ที่คอนซูเมอร์และภาคธุรกิจได้รับ เชื่อว่าเป็นผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนเกมของตลาดที่ก่อนหน้านี้อินเทลกินรวบมานาน มั่นใจว่าในปี 2561 จะได้เห็นว่าไรเซ็นโมบายเข้าไปสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดได้อย่างมากแน่นอน

“เอเอ็มอีได้กลับมาแล้ว และมีความจริงจังอย่างมากด้วย กลุ่มเป้าหมายหลักโฟกัสผู้บริโภค 3 กลุ่มคือ เกมเมอร์ กลุ่มนักพัฒนา หรือผู้สร้างคอนเทนท์ และผู้ใช้งานมืออาชีพที่ชื่นชอบการโอเวอร์คล็อกเครื่องให้ได้ประสิทธิภาพสูงขึ้น"

บริษัทวางประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดโฟกัสระดับเอเชียแปซิฟิก โดยการเปิดตลาดไรเซ็นโมบายครั้งนี้เลือกให้เป็น 1 ใน 3 ประเทศแรกที่ผู้บริหารระดับสูงเข้ามาโรดโชว์พบปะคู่ค้าและสื่อมวลชนก่อนเปิดตัวและเปิดขายอย่างเป็นทางการ ประเทศอื่นจะตามด้วยญี่ปุ่นและออสเตรเลีย

"พีซีไทยถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูงมากทั้งในระดับกลางและบน โดยเฉพาะกลุ่มเกมมิ่ง ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมาเกมมิ่งโน้ตบุ๊กเติบโตถึง 83% เดสก์ท็อปเติบโตถึง 377% จากทั้งคอมพ์ประกอบ และคอมพ์ชุดที่แบรนด์ทำออกมาเพื่อตลาดเกมโดยเฉพาะ"

ข้อมูลโดยจีเอฟเคระบุว่า โน้ตบุ๊คที่มีขนาดหน้าจอต่ำกว่า 14 นิ้ว มียอดขายลดลงถึง 22% กลับกันโน้ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15-17 นิ้ว กลับเติบโตถึง 31% ส่งผลทำให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินมูลค่าสูงขึ้นจากเดิมอยู่ที่ช่วงระดับราคา 15,000 - 17,000 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ 20,000 - 32,000 บาท

ด้าน นายโจ มาครี รองประธานบริษัท หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีผลิตภัณฑ์ กล่าวว่า เอเอ็มดีต้องการเป็นผู้นำหน่วยประมวลผลที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับโน้ตบุ๊กแบบบางเบา ชูจุดต่างซีพียูประสิทธิภาพสูง กราฟิกพรีเมียม เทคโนโลยีผู้ผลิตชื่อดังค่ายเอทีไอซึ่งบริษัทเข้าไปซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2549 เบื้องต้นบริษัทจะทยอยเปิดตลาดสินค้าตั้งแต่เดือนพ.ย.2560 เป็นต้นไปกับ 2 แบรนด์ จากนั้นเต็มรูปแบบในปี 2561