น้ำเถ้าแกลบดับกลิ่นกาย 40+

น้ำเถ้าแกลบดับกลิ่นกาย 40+

น้ำด่างระงับกลิ่นกายจากเถ้าแกลบ ผลผลิตจากโจทย์วิจัยที่ “สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์” ส่งให้ 2 นักศึกษาฝึกงานคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์วัย 40 ปีขึ้นไปที่ประสบปัญหากลิ่นกาย

น้ำด่างระงับกลิ่นกายจากเถ้าแกลบ ผลผลิตจากโจทย์วิจัยที่ “สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์” ส่งให้ 2 นักศึกษาฝึกงานคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์สนองตอบความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไปที่ประสบปัญหากลิ่นกาย ได้รับรางวัลชมเชยจากการประกวดนวัตกรรมข้าวไทยปี 2560 เตรียมวางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์


"ถือเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับขี้เถ้าแกลบ 770 เท่า ทั้งยังเป็นการนำของเหลือจากกระบวนการแปรรูปข้าวมาสร้างมูลค่าเพิ่ม และยังเป็นทางเลือกของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มชะลอวัยที่เสริมคุณสมบัติด้านการระงับกลิ่นกายไว้ด้วย ทำให้ผลิตภัณฑ์มีจุดขายชัดเจนและแก้ปัญหากลุ่มลูกค้าตรงจุด” นายธนธรรศ สนธีระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเนเชอรัลโปรดักซ์ จำกัด กล่าว


ระงับกลิ่นด้วยน้ำด่างขี้เถ้า


ข้อมูลทางวิชาการระบุว่า กลิ่นตัวจะเกิดขึ้นแปรผันตามอายุ สาเหตุมาจากความสามารถในการควบคุมปฏิกิริยาออกซิเดชันของร่างกายลดน้อยลง โดยสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวคือ กรดไขมันและกรดไขมันอิ่มตัวรวมกันทำให้เกิดสารที่เรียกว่า “โนเนนัล”ในช่วงวัยรุ่นความสามารถในการต้านออกซิเดชันสูง ร่างกายจึงไม่ผลิตสารโนเนนัล แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความสามารถในการควบคุมปฏิกิริยาออกซิเดชันลดลง ทำให้ร่างกายหลั่งกรดไขมันกับกรดไขมันอิ่มตัวมาก โนเนนัลที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นจึงตามมาเมื่อเหงื่อออก ไขมันจะหลั่งออกมาตามเหงื่อ โดยในคนที่อายุมากจะมีกรดไขมันและไขมันอิ่มตัวอยู่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์


ข้อมูลความรู้ดังกล่าวจึงเป็นที่มาของแนวคิดพัฒนา ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากน้ำด่างมาจากขี้เถ้าแกลบ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่น ยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำยาล้างรถ น้ำยาซักผ้า สบู่ และแชมพูสระ โดยนำมาหมักแล้วสกัดออกมาเป็นน้ำด่าง ใช้ระยะเวลา 7-10 วันแต่ทางผู้ผลิตใช้กระบวนการหมักน้ำด่างจากเถ้าแกลบที่มีซิลิก้า 70-80 % ด้วยกระบวนการอัลตราโซนิคที่ใช้เวลาเร็วขึ้น ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) มาใช้ผลิตน้ำด่างแล้วนำไปผสมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากข้าวให้มีคุณสมบัติดูดซับและกักเก็บกลิ่น ในอนาคตบริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ออกมาเสริม อาทิ ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย ครีมบำรุงผิวหน้า รวมถึงแชมพู เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัย 40 ปีขึ้นไป


ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาสิ่งใหม่ จึงจัดทำโครงการ “ด็อกเตอร์โอแอนตี้ เอจจิ้ง สกิน เอสเซ้นส์” ส่งเสริมการวิจัยภายในองค์กร ซึ่งโจทย์วิจัยที่ส่งมอบให้นักศึกษาฝึกงานก็เป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ ส่วนผลงานปีนี้น้ำด่างระงับกลิ่นกายจากเถ้าแกลบ นักศึกษาฝึกงานที่เป็นเจ้าของไอเดีย คือ น.ส.วรรณภา ไชยาไส และ น.ส.ปรียาภรณ์ บังคุณ นักศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต


ตลาดเล็กแต่กำลังซื้อสูง


“ด็อกเตอร์โอ” แบรนด์ใหม่ของสยามเนเชอรัล โปรดักซ์สำหรับสินค้ากลุ่มเวชสำอาง ที่ต้องการตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไปที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเป็นเวชสำอางจึงมีราคาค่อนข้างสูง ล่าสุดได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ประเทศจีนแล้ว และจะเริ่มกระจายสินค้าไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น ฉะนั้น แนวทางการทำตลาดจะเน้นการขายผ่านออนไลน์


“โครงการนี้เป็นหนึ่งในโปรเจคของนักศึกษาฝึกงาน ที่ส่งเข้าประกวดนวัตกรรมข้าวไทย ปี 2560 และได้รับรางวัลชมเชย สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับนักศึกษาและบริษัทในฐานะผู้ให้การสนับสนุน โดยมีพนักงานรุ่นพี่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ ทั้งวิจัย การตลาด การออกแบบ ถือเป็นการกระตุ้นให้นักศึกษาโตเร็วขึ้น ไม่ต้องรอเรียนจบก็สามารถได้ทดลองทำงานจริงแบบมืออาชีพ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนไปตลอด เพียงแค่ว่าจะพร้อมเมื่อไรเท่านั้นที่ก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการ”


ปัจจุบันบริษัทร่วมมือทำโปรเจคกับหลายมหาวิทยาลัย อาทิ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ที่กำลังเจรจาโปรเจคพัฒนาสมุนไพร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ให้ทุนสนับสนุนเกี่ยวกับวัตถุดิบ หรือเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา นักศึกษาฝึกงานได้พัฒนาผลิตภัณฑ์จากสเต็มเซลล์ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ได้รับรางวัลนวัตกรรมข้าวไทยที่ 3 ประเภทอุตสาหกรรม โดยมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สำนักงานนวัตกรรมฯ ส่วนมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงทำโปรเจคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับเด็ก เป็นต้น