คลัง 'สั่งสอบภาษี' นายแบบโชว์จน

คลัง 'สั่งสอบภาษี' นายแบบโชว์จน

กระทรวงการคลังกำลังสอบเชิงลึกกรณีนายแบบโชว์ "บัตรคนจน" โดยส่งสรรพากรสอบรายได้และประวัติการชำระภาษี พร้อมส่งดำเนินคดีอาญาหากพบแจ้งข้อมูลเท็จ ระบุ กรณีที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ถือบัตรทั้งระบบ

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลางเปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมบัญชีกลางและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งตรวจสอบกรณีนายแบบที่ได้รับบัตรสวัสดิการของรัฐว่า ผ่านคุณสมบัติมาได้อย่างไร โดยนอกจากการตรวจสอบคุณสมบัติเบื้องต้นตามเกณฑ์ของรัฐแล้ว จะตรวจสอบในเชิงลึกด้านรายได้และการเสียภาษีของนายแบบดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ เท่าที่ดูพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่ปรากฏตามข่าวพบว่า ค่อนข้างสวนทางกับรายได้  หากการตรวจสอบพบว่า ผ่านคุณสมบัติ 5 ข้อ คือ รายได้ต้องไม่เกิน 1 แสนบาท  เงินฝากต้องไม่เกิน 1 แสนบาท  กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ในส่วนของบ้านหรือทาวน์เฮาส์ต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 25 ตารางวา ส่วนห้องชุดต้องมีพื้นที่ไม่เกิน 35 ตาราเมตร รวมถึง ต้องมีสัญชาติไทย และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป เราก็ต้องไปตรวจสอบเชิงลึกว่า มีการเสียภาษี กับกรมสรรพากรอย่างถูกต้องหรือไม่ ขณะนี้ได้รายชื่อมาแล้ว กำลังตรวจสอบอย่างละเอียดอีกรอบ คิดว่า ไม่ช้าผลจะออกมา

"คงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด ถ้าผ่านคุณสมบัติ 5 ข้อ ต้องไปดูว่ารายได้ไม่เกิน 1 แสนบาท จริงหรือไม่ ที่ผ่านมามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องหรือไม่ จะประสานไปยังกรมสรรพากรให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยว่า รายได้ที่ได้มาจากการเป็นนายแบบนั้น มีการแจ้งเสียภาษีไว้กับกรมสรรพากรอย่างไร"นางสาวสุทธิรัตน์กล่าว

สำหรับภาพรวมการใช้บัตรคนจน ช่วงเวลาเกือบ 1 เดือนนั้นพบว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีการแจกจ่ายบัตรในส่วนของต่างจังหวัดเริ่มแจกเมื่อ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา แจกไปแล้ว 90% ส่วน 7 จังหวัด กทม.และปริมณฑล แจกจ่ายเมื่อ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา แจกจ่ายไปแล้ว 50% โดยพบว่า ขณะนี้มีการนำบัตรไปใช้เฉลี่ยวันละ 4-5 แสนราย โดยมีใช้สูงสุด 7 แสนราย  ส่วนปัญหาร้านธงฟ้า เก็บบัตรไว้ขณะนี้หมดไปแล้ว เพราะกรมฯได้ดำเนินการอย่างจริงจัง คาดว่า สิ้นเดือนตุลาคมนี้ ธนาคารกรุงไทยจะสามารถติดตั้งเครื่องอีดีซีครบทุกตำบล จำนวน 9,500 เครื่อง

ด้านนายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า สศค.กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติและเข้าไปดูข้อมูลที่นายแบบดังกล่าวแจ้งไว้อีกรอบ โดยตรวจสอบเชิงลึกในแง่ของรายได้ ซึ่งยอมรับว่า อาจตรวจสอบได้ยาก เพราะรายได้บางรายการอาจเป็นรายได้ที่ไม่มีการแจ้งไว้ในรายการเสียภาษีหรือเป็นรายได้นอกระบบภาษี ซึ่งต้องไปตรวจสอบถึงผู้ว่าจ้างว่า มีการแจ้งรายจ่ายไว้หรือไม่

"เราต้องไปดูเรื่องรายได้ว่า รับมาอย่างไร เป็นรายได้นอกระบบภาษีหรือไม่ และคงต้องไปไล่ดูว่าตั้งแต่ผู้ว่าจ้างคือใครบ้าง คงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบระยะหนึ่ง ถ้าพบว่ามีการแจ้งข้อมูลเท็จ จะระงับการใช้บัตร ต้องคืนเงินที่มีการใช้ไป และถูกดำเนินคดีอาญาโทษฐานแจ้งข้อมูลเท็จกับราชการ ถ้าพบหลักฐานว่านายแบบดังกล่าวแจ้งข้อมูลเท็จจะเชิญมาชี้แจง รวมถึง แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีอาญา ข้อหาแจ้งข้อมูลเท็จ ซึ่งเท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้น ข้อมูลที่แจ้งมาทั้ง 5 ข้อ ผ่านเกณฑ์หมด"นายสุวิชญ กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า จากกรณีดังกล่าว กระทรวงการคลังกำลังพิจารณาว่า จะมีการปรับเงื่อนไขของผู้ใช้บัตรสวัสดิการว่า ถ้ากระทำการในลักษณะใดลักษณะหนึ่งจะเป็นการทำผิดเงื่อนไข เพื่อให้สามารถระงับการใช้บัตรทันที อย่างไรก็ดี จากกรณีที่เกิดขึ้น เราจะไม่มีการตรวจสอบย้อนหลังทั้งระบบ แต่จะตรวจสอบเป็นรายกรณีหากมีการแจ้งข้อมูลเข้ามา

สำหรับสวัสดิการเพิ่มเติมจะให้กับผู้มีรายได้น้อย ขณะนี้ กำลังพิจารณาอยู่ เพราะบัตรเพิ่งแจกไปไม่ถึง 1 เดือน ขอรอดูผลการใช้บัตรก่อน โดยสิ่งที่ผู้มีรายได้น้อยต้องการคือ ค่าน้ำ ค่าไฟ เท่าที่ดูเงินที่มีเหลืออยู่ 5 พันล้านบาท อาจไม่เพียงพอ คงต้องใช้เวลาพิจารณาอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่จะสรุปว่าจะให้สวัสดิการอะไรเพิ่มเติม เท่าที่มีการใช้บัตร เกือบ 1 เดือน ผลการดำเนินการอยู่ในระดับที่พอใจ

หมายเหตุ: ภาพจากการสืบค้นข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต