ปรากฏการณ์หมอกธุมเกตุ

เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (26 ต.ค.60) ได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติมีหมอกลงมาปกคลุมไปทั่วมณฑลพิธีและพระบรมมหาราชวัง เชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์เช่นพระมหากษัตริย์สวรรคตแล้วกำลังจะกลับสู่สวรรค

สำหรับบรรยากาศบริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมพระราชพีธีถวายพระเพลิงพระบรมศพได้เข้าพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่เพิ่มพื้นที่เข้าร่วมพระราชพิธี

โดยเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 25 ต.ค.ณ จุดคัดกรองฝั่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปิดประตูให้ประชาชนที่มาเข้าคิวรอได้เข้าไปภายในรั้วมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่หัวมุมถนนหน้าพระลานเชื่อมถนนราชดำเนินใน เยื้องศาลหลักเมือง ยาวไปจนถึงถนนกลางมณฑลพิธี โดยพื้นที่นี้สามารถรองรับประชาชนได้ราว 2 หมื่นคน สร้างความปลาบปลื้มแก่ประชาชนเป็นอย่างยิ่ง

ขณะที่ช่วงเช้ายังคงมีการเปิดจุดคัดกรองให้ประชาชนได้เข้าไปจับจองพื้นที่ส่วนที่ยังสามารถรองรับได้อีกพอสมควร อย่างภายในมณฑลพิธีฝั่งโรงมหรสพ และด้านหน้าศาลหลักเมืองที่พอจะมีพื้นที่ว่างรองรับประชาชนได้อีกหลายพันคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาประชาชนบางส่วนตั้งใจไม่นอนพากันนั่งสมาธิโดยหันหน้าไปทางพระเมรุมาศพร้อมตั้งจิตอธิษฐานส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย หลายคนหยิบหนังสือมาสวดมนต์ และเมื่อถึงเวลาใกล้รุ่งจะรีบลุกไปอาบน้ำ ล้างหน้าแล้วสวมชุดใหม่ อย่างชุดไทยจิตรลดา เพื่อรอร่วมพระราชพิธีฯ

ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่จากกรมประชาสัมพันธ์ได้เดินทักทายประชาชนพร้อมแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวระหว่างริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเคลื่อนผ่าน เริ่มจากริ้วขบวนพระนำ สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร ให้ประชาชนก้มกราบ 3 ครั้ง

ต่อด้วยริ้วขบวนพระมหาพิชัยราชรถทรงพระโกศทองใหญ่ให้หมอบกราบ 1 ครั้งไม่แบมือแล้วเงยหน้ามองไปยังพระมหาพิชัยราชรถ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณด้วยใจสงบนิ่ง และริ้วขบวนสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้หมอบกราบ 1 ครั้งโดยไม่แบมือ และไม่ควรส่งเสียงใดๆ ทั้งนี้ประชาชนสามารถถ่ายภาพริ้วขบวนเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ด้วยกิริยาสำรวม ไม่ควรเซลฟี่

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สภาพอากาศช่วงรุ่งสาง เมื่อเวลาประมาณ 05.55 น.ได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติมีหมอกลงมาปกคลุมไปทั่วมณฑลพิธีและพระบรมมหาราชวัง สร้างความประหลาดใจให้แก่พสกนิกรที่มาร่วมพระราชพิธีฯ เป็นอย่างยิ่ง

หลายคนบอกว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวเป็นปกติของช่วงเปลี่ยนฤดูจากฤดูฝนเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ขณะที่จำนวนไม่น้อยเชื่อว่าเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่เรียกว่า "หมอกธุมเกตุ" ที่จะปกคลุมในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้น อย่างเช่นพระมหากษัตริย์สวรรคตแล้วกำลังจะกลับสู่สวรรค์ตามความเชื่อโบราณ ซึ่งวันนี้ตลอดทั้งท้องฟ้ายังแจ่มใส มีลมพัดอ่อนๆ อยู่เป็นระยะ และไม่มีฝนตกแต่อย่างใด