MORNING CALL ACTION NOTES (25 ต.ค.60)

MORNING CALL ACTION NOTES (25 ต.ค.60)

เลือกเล่นรายตัว

ภาวะตลาดหุ้นไทยวันก่อนฟื้นตัวต่อตามการรีบาวน์ของกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันฟื้นตัวจากจำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐฯลดลง โดยรวม SET Index ปิดที่ 1,701.81 จุด (+9.23 จุด) Volume 4.82 หมื่นลบ. โดย Foreign Net +371.16 ลบ.  TFEX Net +2,609 สัญญา ตราสารหนี้ -1,176 ลบ.

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

+ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทำนิวไฮขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแคทเธอร์พิลลาร์ และ 3M

+น้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง และซาอุดิอาระเบียให้คำมั่นว่าเรื่องการปรับลดการผลิต

+ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อรวมภาคการผลิตและภาคบริการสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 55.7 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 54.8 ในเดือนก.ย.

+/- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการยูโรโซนปรับตัวลงสู่ 54.9 ตามดัชนีฯของเยอรมนีลดลงต่ำสุดในรอบ 2 เดือน  แต่ดัชนีฯ ของฝรั่งเศสปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 77 เดือน

+พาณิชย์ มั่นใจทั้งปีส่งออกโตแตะ 8% มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์

+ครม.เห็นชอบปรับแผนยุทธศาสตร์เอกชนร่วมลงทุนภาครัฐปี 60-64 จำนวน 55 โครงการ มูลค่า 1.62 ล้านลบ.

+/- Fund Flow พลิกกลับเป็น Net Buy วันแรก 370 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทอ่อนค่า 33.19 Bath/USD โดยนักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะ Short TFEX ตั้งแต่เดือนก.ย. ราว 1.01 แสนสัญญา)

** 26 ต.ค. ประชุม ECB และรัฐสภาแคว้นกาตาลุญญาประชุมเพื่อปูทางประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากสเปน

** 27 ต.ค. สหรัฐประกาศตัวเลข GDP ในช่วง Q3/2560

ภาวะตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ภาคการผลิตและบริการของสหรัฐและยูโรโซนที่บ่งชี้ถึงการขยายตัว  แต่มีปัจจัยลบกดดัน fund flow ที่ยังผันผวน    คาดวันนี้ SET ยังไม่ผ่านแนวต้าน 1,711 จุด โดยมองกรอบทั้งวันที่ 1,690-1,711 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   เก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน

- การปฎิรูปภาษีของสหรัฐ IVL EPG

- กลุ่มโรงกลั่นคาดกำไร Q3/17 เติบโต

- กลุ่มเดินเรืออานิสงส์ค่าระวางเรือทำ New High 1,588 จุด

- กลุ่มที่คาดว่างบ Q3/17 จะเติบโตขึ้น ได้แก่ PTTGC TOP IRPC BCP BCPG  HARN FTE  ASIMAR  ATP30 JWD  ERW CKP COMAN SYNEX XO TPC

หุ้นแนะนำพิเศษ

GPSC     (ราคาปิด 55.25  Consensus สูงสุด 60)

  • เราชอบ GPSC เพราะมีการเติบโตที่ชั้ดเจนใน 2 ปีต่อจากนี้โดยปี 61 คาดว่าโรงไฟฟ้า SPP CUP4 จะแล้วเสร็จรับรู้กำลังการผลิตอีก 45 MW และปี 62 เขื่อนไซยะบุรีและน้ำลิกจะแล้วเสร็จรับรู้กำลังการผลิตเพิ่มอีก 347 MW ส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวม 92 GW นอกจากนี้ยังเข้าร่วมประมูล SPP Hybrid Firm และการจับมือกับ PTT เพื่อทำ solar roof ในสถานีจำหน่ายน้ำมันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง
  • เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลังจากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโรงไฟฟ้า BIC 2 กำลังการผลิต 117 MW (GPSC ถือหุ้น 25%) COD มิ.ย.60 และ IRPC clean เฟส 2 กำลังการผลิต 195 MW (GPSC ถือหุ้น 51%) COD พ.ย. 60 ช่วยเพิ่มกำลังการผลิตอีก 11% สู่ 53 GW โดย Bloomberg คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 2.94 พันล้านบาท +9%YoY

หุ้นมีข่าว   

Analyst Meeting  : KKP (ราคาปิด 74.25 IAA Consensus เฉลี่ย79 บาท)

Ø  3Q60 มีกำไรสุทธิ 1,723 ลบ. +2.4%YoY  9M60 มีกำไรสุทธิ 4,432 ลบ. +8.3%YoY (กำไรเบ็ดเสร็จที่วัดมูลค่าหลักทรัพย์เผื่อขาย คิดเป็น 1,796 ลบ. +8% และ 4,775 ลบ. +6% ตามลำดับ) กำไรเติบโตสูง +45%QoQ เนื่องจาก NPL โดย่รวมลดลงโดยเฉพาะ NPL สินเชื่อเช่าซื้อจัดชั้นพิเศษลดลง +ขาดทุนรถยึดลดลง Coverage Ratio ที่ระดับ 105.6% ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองพึงกันตามเกณฑ์แบงก์ชาติสูงถึง 185% จึงไม่ต้องตั้งสำรองหนี้สูญส่วนเพิ่ม อย่างไรก็ดี credit cost ใน 4Q60 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาดทุนรถยึดในช่วง 2 เดือนหลัง  และคาดว่าคชจ.สำรองหนี้สูญในปี 61 ไม่น่าจะลดลงจากปีนี้

Ø  สินเชื่อปลาย 3Q60 เติบโต 4.4%YTD แต่สินเชื่อเช่าซื้อกลับหดตัว 7%YTD สินเชื่อที่เติบโตดีอยู่นอกกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อส่วนบุคคล +30% สินเชื่อ SME +73% สินเชื่อที่อยู่อาศัย +149% สินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับ wealth management +38%

Ø  Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 60 ราว 5.7 พันลบ. +3% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PBV 1.6 เท่า สูงกว่ากลุ่มที่อยู่ที่ระดับ 1.3 เท่า แต่เราชอบหุ้น KKP จาก yield ที่อยู่ในระดับสูง IAA Consensus คาด yield ปี 60 เฉลี่ยราว 7.3% แนะนำ ถือ

Analyst Meeting  : MALEE (ราคาปัจจุบัน 43.25 บาท Bloomberg Consensus 43.46 บาท)

Ø  Outlook ผลการดำเนินงานใน 3Q60 น่าจะยังได้รับผลจากการปรับปรุงคุณภาพน้ำมะพร้าว (25% ของรายได้) ตั้งแต่ต้นทาง ในช่วงต้นงวด อยู่ระดับใกล้เคียงกับ 2Q60 ที่ 80% แต่เริ่มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาที่ระดับ 80 - 90% ในช่วงปลายงวด อย่างไรก็ตาม การปรับปรุง Packaging สำหรับสินค้าน้ำผลไม้ (35% ของรายได้) ได้เคลียร์สต็อกสินค้าเดิมหมดไปแล้วในงวด 2Q60 น่าจะเริ่มหนุนให้ ยอดขาย 3Q60 ฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับใกล้เคียงเดิม โดยทั้งน้ำผลไม้ และน้ำมะพร้าว น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ ใน 4Q60 ซึ่งเป็นช่วง High season ของกลุ่มน้ำผลไม้ในประเทศ และคาดว่าการรับซื้อน้ำมะพร้าว เข้าใกล้ 100% ในช่วงสิ้นปี

Ø  ส่วนปี 61 ภายหลังจากการสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ (เทคโนโลยีล่าสุดของโลก) จะมาช่วยเพิ่มกำลังการผลิตได้ราว 10%สู่ 330 ล้านลิตร และการปรับปรุงคุณภาพการรับซื้อน้ำมะพร้าว น่าจะหนุนให้ผลประกอบการกลับมาเติบโตอีกครั้ง แต่ในระยะสั้น การเติบโตในงวด 3Q60 น่าจะยังไม่โดดเด่น โดยทาง Bloomberg Consensus ยังคงคาดกำไรปี 60 จะหดตัว 19.4%YoY กอปรกับ ราคาปัจจุบันค่อนข้างเต็มมูลค่า แต้ทั้งนี้ บริษัทยังมีนโยบายการซื้อหุ้นคืนจำนวน 15 ล้านหุ้น ในกรอบวงเงิน 500 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นเฉลี่ยต่อหุ้นที่ 33.33 บาท ซึ่งยังมิได้เริ่มดำเนินการแต่อย่างใด มาจำกัด Downside ไว้บางส่วน จึงแนะนำให้ "รอซื้อสะสม" หากราคาอ่อนตัว

Ø  (+) TPCH ยื่นชิง “เอสพีพี ไฮบริด” 1โครงการ ขนาด 20 MW แย้มเตรียมพร้อมชิง VSPP Semi Firm คาดเปิดปีหน้า 280-300 MW มั่นใจสิ้นปีครบ 60 MW เล็งจ่อ COD เพิ่มอีก 1 โครงการ ขนาด 10 MW ในไตรมาส 4/60 ลั่นดันผลงานปีนี้โต (ที่มาข่าวหุ้น)  

Ø  ความเห็น  เราคาดผลประกอบการ 2H60 อยู่ที่ราว 144 ล้านบาทเติบโต 44% จาก 1H60 เนื่องจากมีการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโรงไฟฟ้า PGP และ SGP กำลังการผลิตแห่งละ 9.2 MW ทำให้มีกำลังการผลิตรวมแตะ 52.8 MW และมีโอกาสเติบโตจากการร่วมประมูล SPP hybrid และ VSPP semi firm นอกจากนี้ใน 4Q60 มีโอกาสกลับรายการด้อยค่าในตั๋วแลกเงิน 20 ล้านบาทซึ่งเป็น upside เพิ่มเติม  

Ø  (+) NOK เผย THAI แจ้งจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแล้ว

Ø  กกพ. ลั่น เปิดรับซื้อไฟฟ้า “SPP Hybrid Firm” คึกคัก ยอดเสนอขายล้น 1,644 MW สูงกว่าเป้ารับซื้อ 300 MW ถึง 5 เท่า ประกาศชื่อผู้ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเทคนิคภายใน 24 พ.ย.นี้ (ที่มาข่าวหุ้น)

Ø  AOT เผย ITD-กลุ่ม LOXLEY ร่วมชิงงานจัดซื้อระบบสายพานลำเลียงกระเป๋า 3.79 พันลบ. เปิดซอง 11 พ.ย.