ทบ.ไม่ปกป้อง 'ผู้กองเหน่ง' หลังพบโครงกระดูกคาดเป็นผอ.อ้อย
รองผบ.กกล.สุรนารี ลั่นไม่ปกป้อง "ผู้กองเหน่ง" หลังพบโครงกระดูกคาดเป็น "ผอ.อ้อย" ด้านพ่อแม่คู่กรณีเหนื่อยมานานกว่า3เดือนเศษ ถามตร.หลักฐานพอเอาผิดนายทหารได้หรือยัง
วันที่ 25 ตุลาคม 2560 ที่สถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากที่ญาติๆ ได้พบโครงกระดูก ที่มีความเชื่อว่าเป็นของ ผอ.อ้อย หรือ นางสาวจุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน ผอ.กองการศึกษาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนตำบลชำ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่หายตัวไปอย่างลึกลับมาตลอดระยะเวลา 3 เดือนเศษ
จากความพยายามของ นายบุญเลิศ - นางแหลม อุ่นอ่อน ร่วมกับบรรดาญาติพี่น้อง ชาวบ้านซำเม็ง ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ ได้พยายามออกติดตามค้นหาร่างในทุกๆ วัน โดยเฉพาะบริเวณป่าตามแนวชายแดนที่ ร้อยอกศุภชัย ภาโส หรือ ผู้กองเหน่ง นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ที่ญาติๆ มีความเชื่อมั่นว่า มีส่วนเป็นอย่างมากในการหายตัวไปของ ผอ.อ้อย หรืออาจจะเป็นผู้ที่ทำร้ายร่างกาย ผอ.อ้อย ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งด้วย
จนเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2560 ได้มาพบหัวเข็มขัด พบเส้นผม พบกระดูกหัวกะโหลก และพบโครงกระดูก เสื้อผ้า กระโปรง จึงมั่นใจมากว่าเป็นของ ผอ.อ้อย และขณะนี้ได้นำสิ่งต่างๆ ที่พบส่งพิสูจน์ ที่โรงพยาบาลตำรวจ แผนกนิวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้นำเดินทางตั้งแต่เมื่อคืน และเช้านี้ถึงมือฝ่ายพิสูจน์หลักฐานแล้ว
พันตำรวจโทสังวร วันทะวี พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรกันทรลักษ์ 1 ในทีมสอบสวนภูธรจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าของคดี ซึ่งเป็นผู้ที่ติดตามและเข้าพื้นที่ แจ้งว่า ภายหลังจากที่พบเจอโครงกระดูก ที่เชื่อมั่นว่าเป็นของ ผอ.อ้อย แล้ว ซึ่งเช้าวันที่ 27 ตุลาคมนี้ จะต้องเดินทางไปยื่นคำร้องขอฝากขังต่อ ในเรื่องที่ผู้กองเหน่ง มีความผิดจากข้อหาเดิม ที่ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ส่วนข้อหาใหม่ หากจะมีการแจ้งเพิ่ม จะต้องรอผลของการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติเวช ที่พบในครั้งนี้ก่อน จากข้อความผิดเดิม ผู้กองเหน่ง จะต้องเดินทางมายื่นประกันตัวในวันที่ 30 ตุลาคม 2560 เพราะครบกำหนดการขอประกันตัวเดิม ครบผัดแรก 12 วันในการขอประกันตัว จากนั้นก็รอผลตรวจพิสูจน์หากชัดเจนก็จะต้องมีการดำเนินการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งในระหว่างนี้ หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องหาข้อมูล การสอบพยานยืนยัน เกาะรอยต่อ โดยเฉพาะยังจุดที่พบโครงกระดูก ระหว่างเส้นทาง หาข้อมูลเพิ่มว่า นอกจากผู้กระทำผิดแล้ว ยังมีใครที่ร่วมขบวนการอีกหรือไม่ มีกี่คน ก็จะต้องดำเนินคดีทั้งหมดด้วย
ส่วนบรรยากาศที่บ้านนายบุญเลิศ กับ นางแหลม บิดา – มารดา ของ ผอ.อ้อย ภายหลังจากที่ได้พบเจอโครงกระดูก ผม เสื้อผ้า กระโปรง นาฬิกา อื่นๆ ที่มีความมั่นใจว่าเป็นศพของผอ.อ้อย อย่างแน่ชัดแล้ว จนทำให้เมื่อคืนนี้ นายบุญเลิศถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปกลางป่า แต่ภายหลังจากที่ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว ได้ออกเดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้านตั้งแต่เมื่อคืนกลางดึก รุ่งเช้าได้พากันมานั่งพักผ่อน มีอาการที่ผ่อนคลายลงเป็นอันมาก จากนี้จะเป็นช่วงการรอคำตอบอย่างใจจดจ่อว่า ผลการตรวจพิสูจน์จะออกมาเช่นไร และสิ่งที่ลุ้นมากกว่านั้นก็คือ ตำรวจจะสามารถจับนายทหาร เข้าคุกได้หรือไม่อย่างไร สมกับฐานความผิดที่ฆ่าลูกตนหรือไม่
ในส่วนสภาพการเป็นนายทหารของผู้กองเหน่ง หรือ ร้อยเอกศุภชัย ภาโส นายทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ทางด้านพันอกสรชัย สุทธิสนธิ์ รองผู้บัญชาการกองทหารราบที่6 และรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้ยืนยันว่า ตนเป็นผู้ที่ลงนามเสนอให้มีการพักราชการของผู้กองเหน่งด้วยมือของตนเอง เพราะจากการที่ได้ถูกสังคม และตามหลักฐานฐานความผิดที่ถูกกล่าวหามาตลอดในเรื่องการเข้าไปเกี่ยวโยงกับคดีของผอ.อ้อย ซึ่งอยู่ในความสนใจของสังคมเป็นอันมาก เพื่อความสะดวกในการดำเนินคดี และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ได้เสนอให้พักราชการผู้กองเหน่งไว้ก่อน หากพิสูจน์ได้ว่าไม่ผิดก็กลับเข้ารับราชการได้ แต่หากผิดก็จะต้องรับโทษตามศาลพลเรือนพิจารณา ว่าไปตามฐานความผิด ไม่เกี่ยวกับกองทัพ เป็นการกระทำส่วนบุคคล ซึ่งหากกองทัพมีคำสั่งลงมา ก็จะต้องต่อสู้คดีเอง แบบพลเรือนปกติจนกว่าจะจบคดี วันนี้ยืนยันกองทัพไว้ยุ่งเกี่ยวกับรูปคดีแน่นอน