'จักรทิพย์' ถกเข้มความปลอดภัยงานพระราชพิธีฯ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. และ รอง ผบช.น. ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการปฏิบัติภารกิจถวายความปลอดภัยรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกการจราจรงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 2 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวก่อนการประชุมว่า ขณะนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความพร้อมในการดูแลประชาชน และเส้นทางการจราจร โดยได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้มีการประเมินว่า จะมีประชาชนเดินทางมาจำนวนมากพอสมควร จากการประเมินคาดว่าพื้นที่ที่จะมีประชาชนเข้ามามากที่สุด คือบริเวณสะพานช้างโรงสี และพระแม่ธรณีบีบมวยผม ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการกระจายกำลังฯ เพื่อดูแลความปลอดภัยเรียบร้อยหมดทุกส่วนแล้ว และยังให้เจ้าหน้าที่อีโอดี. เข้าตรวจสอบบริเวณโดยรอบ ก่อนถึงวันพระราชพิธี ซึ่งวันนี้ก็จะเป็นการประชุมเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมในสิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุง ส่วนการประชุมด้านการข่าว ก็ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง สิ่งที่เป็นห่วง คือ พี่น้องประชาชน ผู้สูงอายุ และการเจ็บป่วย หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว ซึ่งก็มีหน่วยแพทย์ประจำจุดต่างๆ เพื่อคอยให้ความช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ อยากจะขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจิตอาสา ให้พูดจากับพี่น้องประชาชนด้วยคำพูดที่สุภาพ อย่าดุด่าว่ากล่าวคนที่มาร่วมงาน เพราะทุกคนตั้งใจที่จะมาร่วมพระราชพิธีอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีผู้แอบอ้างเก็บค่าจอดรถ บริเวณโดยรอบพื้นที่จัดงานนั้น ผบช.น. ได้กำชับและตรวจสอบมาโดยตลอด ไม่ต้องเป็นห่วง แต่หากประชาชนเห็นว่ามีใครเก็บค่าจอดรถ ก็ขอให้ส่งข้อมูลมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม รอง ผบช.น. ดูแลงานกิจการพิเศษ กล่าวว่า เบื้องต้นกรณีการขอความร่วมมือในการงดจำหน่ายสุรานั้น ได้ขอความร่วมมือในการงดจำหน่ายสุรา ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. เนื่องจากอยู่ในช่วงระหว่างงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช โดยไม่ได้มีการสั่งห้ามจำหน่ายแต่อย่างใด แต่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้แล้วว่า ไม่ควรมีงานรื่นเริง เพื่อความเหมาะสมในช่วงระหว่างที่มีงานพระราชพิธี อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีจุดเพิ่มเติมที่ได้มีการเพิ่มให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้ามาได้อีก 5 จุด คือ 1.ริมถนนราชดำเนินใน ตั้งแต่ถนนผ่ากลางสนามหลวงถึงแยกป้อมเผด็จ 2.แนวกำแพงรอบบรมมหาราชวัง ตั้งแต่แยกท่าช้างจนถึงแยกท่าเตียน 3.บริเวณริมถนนท้ายวัง 4.บริเวณหน้าวัดโพธิ์ 5.ริมกำแพงพระบรมมหาราชวังฝั่งตรงข้ามสวนสราญรมย์

พล.ต.ต.มนตรี กล่าวอีกว่า จากเดิมที่จะสามารถให้ประชาชนเข้ามาได้ประมาณ 30,000 – 40,000 คน จะสามารถเพิ่มเติมจำนวนประชาชนที่จะเข้ามาได้มากถึงประมาณ 90,000 คน พร้อมทั้งมีการจัดเตรียมห้องน้ำไว้ทุกจุด เพื่ออำนวยความสะดวก จากการนับจำนวนประชาชนผ่านจุดคัดกรองทั้งหมด มีประชาชนเดินทางมาในวันซักซ้อมริ้วขบวนพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพเสมือนจริง เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีมากกว่า 80,000 คน คาดว่าประชาชนจะเดินทางมาเป็นจำนวนมาก โดยบริเวณรอบพื้นที่สามารถรับประชาชนทั้งหมดกว่า 300,000 คน อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่มีโรคประจำตัว นำยาติดตัวมาด้วย เพราะอาจจะมีประชาชนเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนบริเวณที่มีประชาชนมาเฝ้ารอในขณะนี้จะไม่มีการให้ประชาชนออกนอกพื้นที่แต่อย่างใด แต่จะมีการเตรียมความพร้อมในการจัดเตรียมพื้นที่บริเวณที่จัดงานในพื้นที่ท้องสนามหลวง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำงานกันตลอดทั้งปี เพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อให้พระราชพิธีออกมาเรียบร้อยที่สุด

นอกจากนี้เฟซบุ๊กกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้เผยแพร่ข้อความประชาสัมพันธ์แนวทางการปฏิบัติของสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ในห้วงวันงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ระหว่างวันที่ 25-29 ต.ค. ระบุว่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการให้งด หรือลดกิจกรรมบันเทิง เช่น การแสดงดนตรี หรือการเต้นรำ โดยให้คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชนเป็นหลัก สำหรับการจัดกิจกรรมงานรื่นเริงต่างๆ ขอให้ชะลอไว้ก่อน การจัดงานหรือกิจกรรมที่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อนแล้ว เช่น งานมงคลสมรส ยังจัดได้ตามปกติ โดยขอให้จัดในสถานที่ปิด