PTTGC - ซื้อ

PTTGC - ซื้อ

ไตรมาส 3/60 จะเป็นไตรมาสที่ดี... และไตรมาส 4/60 จะดีขึ้นอีก

ประเด็นการลงทุน

ราคาหุ้นปรับตัวดีกว่าทั้งกลุ่มปิโตรเคมี และ SET ในไตรมาส 3/60 หนุน โดยคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/60 ที่มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในมุมมองของเรา ราคาหุ้นยังมีโอกาสขึ้นต่อได้อีก เนื่องจากกำไรไตรมาส 4/60 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง – หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการกลั่นสูงขึ้น, ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง, และส่วนแบ่งกำไรจากการซื้อกิจการ มูลค่าหุ้น ณ ปัจจุบันของ PTTGC ยังอยู่ในระดับต่ำ – ซื้อขายที่ PER ปี 2561 ที่ 8.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวของบริษัทที่ 11.4 เท่า และค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 13.3 เท่า ดังนั้นเรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่สำหรับปี 2561 ที่ประเมินด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสดที่ 101 บาท

คาดกำไรไตรมาส 3/60 เติบโตดีมาก

เราคาด PTTGC จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/60 ที่ 9,951 ล้านบาท สูงขึ้น 60% YoY และ 51% QoQ หนุนโดยกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่สูงขึ้น YoY (และขาดทุนในไตรมาส 2/60) หากไม่รวมคาดการณ์กำไรดังกล่าวมูลค่า 1 พันล้านบาท และกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 178 ล้านบาท กำไรหลักสำหรับไตรมาส 3/60 คาดว่าจะอยู่ที่ 8,766 ล้านบาท ทะยานขึ้น 119% YoY และ 20% QoQ ปัจจัยหนุนการเติบโตของกำไรหลัก ได้แก่ 1)อัตราการใช้กำลังการกลั่นเพิ่มขึ้น, 2) ปริมาณขายปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น (มีการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนน้อยลง กอปรกับไม่มีการปิดซ่อมบำรุงนอกแผนงาน), 3) ค่าการกลั่นสูงขึ้น, 4) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีบางชนิดขยายตัว และ 5) ส่วนแบ่งกำไรจากสินทรัพย์ที่ซื้อจาก PTT (ดีลแล้วเสร็จวันที่ 3 ก.ค.) (รูปที่ 1 และ 2)

แนวโน้มกำไรหลักไตรมาส 4/60 เติบโตดีต่อเนื่อง

คาดกำไรไตรมาส 4/60 ของ PTTGC จะเติบโตดีต่อเนื่อง หนุนโดยอัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานปิโตรเคมีที่สูงขึ้นและกำไรจากสินทรัพย์ที่ซื้อจาก PTT มากขึ้น (ไม่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน) ในขณะที่โรงกลั่นจะดำเนินงานเต็มกำลังการผลิต ปริมาณขายปิโตรเคมีก็คาดว่าจะสูงขึ้นทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ในส่วนของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ หลังจากฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงที่ผ่านพ้นไป กอปรกับช่วงโลว์ซีซั่นของอุปสงค์จะส่งผลให้ค่าการกลั่นอ่อนตัวลง QoQ (แต่เพิ่มขึ้น YoY หนุนโดยอุปสงค์-อุปทานที่ปรับตัวดีขึ้น) ขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีคาดว่าจะทรงตัวทั้ง YoY และ QoQ ปริมาณขายปิโตรเคมีที่เพิ่มขึ้นน่าจะมีน้ำหนักมากกว่าผลกระทบจากค่าการกลั่นที่อ่อนตัว ดังนั้น เราคาดกำไรหลักไตรมาส 4/60 จะเติบโตทั้ง YoY และ QoQ

ภาวะตลาดโรงกลั่นที่ดีขึ้นส่งผลให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี2561

แม้เราคงประมาณการกำไรหลักปี 2560 ที่ 37,532 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาด 13% เราได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิ และกำไรหลักปี 2561 ขึ้น 5% มาอยู่ที่ 40,098 ล้านบาท เพื่อสะท้อนคาดการณ์ค่าการกลั่นที่สูงขึ้น 16% (เป็น 7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล) เนื่องจากคาดการณ์อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคและตะวันออกกลาง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน จะมากกว่าคาดการณ์กำลังการกลั่นใหม่ที่จะเพิ่มเข้ามา 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ซึ่งปัจจัยนี้จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัย (เพิ่มเติมจากปริมาณขายปิโตรเคมีที่เติบโต) ที่จะหนุนให้กำไรปี 2561 เติบโตแข็งแกร่งขึ้น (เพิ่มขึ้น 11% YoY เทียบกับประมาณการก่อนหน้าที่ 5%) ซึ่งสูงกว่าการเติบโตของกำไรหลักของ SET ที่คาดไว้ที่ 5% สำหรับปี 2561